กระบี่ ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ร่วมกับ ห้างบิ๊กซีสาขากระบี่ ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุจำลองเหตุการณ์กราดยิง Active shooter ให้พนักงานภายในห้าง ฝึกทักษะการเอาชีวิตรอด 3 ขั้นตอน คือ หนี ซ่อน สู้ หากตกอยู่ในสถานการณ์จริง
วันที่ (29 พ.ย.66) พ.ต.อ.เสกสรร แก้วสว่าง รอง ผบก.ภ.จว กระบี่ เป็นประธาน เปิดการฝึกซ้อมแผนเหตุกราดยิงกลางห้าง โดยตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขากระบี่ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ได้จำลองเหตุการณ์ ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ กรณีเกิดเหตุการณ์กราดยิงภายในห้างฯ โดยใช้ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เป็นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นการฝึกทักษะการเอาชีวิตรอดให้แก่พนักงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยยึดหลักการ 3 ข้อ คือ หนี ซ่อน สู้
โดยเหตุการณ์ที่จำลองขึ้น เริ่มจากคนร้ายเป็นชาย ขี่รถจยย.ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน สวมเสื้อยืด นุ่งกางเกงยีนส์ สวมหมวกแก๊ป มีผ้าปิดบังใบหน้า พร้อมอาวุธปืนสั้น เดินทางมาถึงบริเวณหน้าร้านทองภายในห้าง ใช้อาวุธปืนยิงใส่ประชาชนเสียชีวิตที่เกิดเหตุ 2 ราย หลังจากนั้นยังก่อเหตุยิงประชาชนบาดเจ็บอีก 3 ราย ส่วนประชาชนที่อยู่ห่างที่เกิดเหตุต่างพากันหนีเอาชีวิตรอดออกไปนอกห้าง
ข่าวน่าสนใจ:
ระหว่างนั้นคนร้ายยังคงคุ้มคลัง ยิงปืนต่อเนื่อง ทางตำรวจต้องกันพื้นที่ไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ ก่อนจะส่งตำรวจชุดแรกเข้าตรึงกำลัง และเข้าช่วยคนบาดเจ็บ ส่งต่อให้กู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชาปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งรพ. ขณะคนร้ายยังคุ้มคลั่ง หน่วยสวาท ของกองกำกับสืบสวนภูธรกระบี่ จึงใช้ยุทธวิธีเข้าควบคุมตัวไว้ได้สำเร็จ ยึดอาวุธปืนสั้น 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน และมีดพกสั้น 1 เล่ม คุมตัวส่งสภ.เมืองกระบี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พ.ต.อ.เสกสรร แก้วสว่าง รอง ผบก.ภ.จว กระบี่กล่าวว่า การจำลองเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการฝึกทักษะและวิธีการเอาชีวิตรอดจากเหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้าให้แก่เจ้าหน้าที่ พนักงาน และประชาชนที่อยู่ภายในห้างฯ โดยการยึดหลักการ 3 ข้อ คือ ข้อแรก หนี การหนี เมื่อไปสถานที่ต่างๆ ให้จดจำทางเข้า-ออก และทางออกฉุกเฉินให้เป็นนิสัย เมื่อเกิดเหตุ ต้องตั้งสติให้ดี และมองหาเส้นทางในการหลบหนี ทิ้งของทุกอย่างที่ไม่จำเป็น ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถช่วยได้ และสุดท้ายเมื่ออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้วให้โทร.แจ้ง 191 ทันที ข้อสอง การซ่อน คือ ต้องล็อกประตู และหาสิ่งของมาใช้กีดขวางคนร้ายเพื่อไม่ให้มาถึงตัว ซ่อนให้พ้นสายตา
โดยหลบด้านหลังสิ่งของขนาดใหญ่และแข็งแรง ปิดไฟในห้อง และปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ อยู่ให้เงียบที่สุด ไม่พูดคุยหรือใช้เสียง และข้อสาม การสู้ สู้ เป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อไม่สามารถหนี หรือซ่อนตัวจากคนร้ายได้ และคนร้ายกำลังจะเข้ามา โดยร่วมกันสู้สุดกำลังเพื่อให้มีโอกาสรอด ใช้การซุ่มโจมตีโดยไม่ให้คนร้ายรู้ตัวเพื่อหยุดยั้งคนร้าย ใช้สิ่งของทุกอย่างที่หาได้มาเป็นอาวุธ ใช้ทุกวิธีการที่นึกได้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
รอง ผบก.ภ.จว กระบี่ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวไม่มีใครสามารถทราบล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นหรือไม่ เมื่อใด และสถานที่ใด ดังนั้นทางผู้บังคับบัญชา จึงมีความห่วงใยในเรื่องนี้ จึงได้มีการจัดการฝึกอบรมและส่งเจ้าหน้าที่ออกไปซักซ้อมแผนฯ เพื่อให้ความรู้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปให้ความรู้แก่สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ห้างสรรพสินค้า และจะมีการขยายแผนไปยังหมู่บ้าน ชุมชนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: