พังงา-ผู้ว่าสั่งล้อมคอกป้องกันรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในจุดเช็กอินสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง
วันที่30 พฤศจิกายน 2566 ที่บริเวณเหมืองหินเก่าถ้ำทองหลางหมู่ที่ 2 ตำบลถ้ำทองหลาง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ที่กลายเป็นจุดเช็กอินชื่อดังของจังหวัดพังงา หลังจากมีนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดพังงาและ จังหวัดใกล้เคียง แห่เดินทางมาชมความสวยงาม ของบึงน้ำสีฟ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ในหุบเขาและมีป่าสนด้านข้าง จนนักท่องเที่ยวขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”จนมีชาวบ้านในพื้นที่มาตั้งร้านขายสินค้าริมถนนสร้างอาชีพและรายได้เข้าสู่ชุมชน แต่ในพื้นที่นั้นไม่มีการบริหารจัดการ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของพื้นที่ หลายภาคส่วนต่างกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ทางนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ได้มอบหมายให้นายพจน์ หรูวรนันท์ ปลัดจังหวัดพังงา จัดประชุมเตรียมความพร้อมและกำหนดมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยมี นายอำเภอทับปุด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานพังงา ประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา ผู้แทนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา ผู้แทนสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) ผู้แทนสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทับปุด ผู้นำท้องที่ท้องที่ ผู้แทนภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ผู้แทนพ่อค้าแม่ค้า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและประชาชนชาวบ้านถ้ำทองหลาง อำเภอทับปุด เข้าร่วมประชุมปรึกหาหารือ เพื่อพิจารณาเตรียมความพร้อมและกำหนดมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว การรักษาความสะอาดบริเวณโดบรอบ รวมถึงกำหนดแนวทางเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและพัฒนาสถานที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอทับปุด จังหวัดพังงาต่อไป
เบื้องต้นทางห้างหุ้นส่วนจำกัด ทับปุดก่อสร้าง ได้รับอนุญาตเข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาสูง เพื่อทำเหมืองแร่โดโลไมต์ (ประทานบัตรที่ 23425/15181) ท้องที่ตำบลถ้ำทองหลาง อำเภอทับปุด เนื้อที่ 27 ไร่ 52 ตารางวา มีกำหนดระยะเวลา 10 ปี จะสิ้นสุดใบอนุญาตประทานบัตรในเดือนธันวาคม พ.ศ.2566 สำหรับขุมน้ำแห่งนี้ ขณะนี้ประชาชนในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 2 กว่า 90 ครัวเรือน และทางโรงเรียนบ้านถ้ำทองหลาง นำไปใช้เป็นน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค นอกจากนี้ มีประชาชน เปิดร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรและสินค้าโอทอป แก่นักท่องเที่ยว สร้างรายได้ในชุมชน แต่ปัญหาที่ต้องช่วยกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือการหาเจ้าภาพหลักมาดำเนินการ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นของกรมป่าไม้และผู้ประกอบการภาคเอกชน ที่มีความทับซ้อนอยู่ การจราจรเริ่มมีปัญหาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ทางสถานีตำรวจภูธรทับปุด ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจมาตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำทุกวัน
ในที่ประชุมได้สรุปขอให้นายอำเภอทับปุด ร่วมขับเคลื่อนกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามแนวเขตของทางราชการคือบริเวณขุมเหมืองแร่ ที่มีแนวเขตติดกับของเอกชน เพื่อจะได้วางมาตรการส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยว และสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว อนาคตต้องมีเจ้าภาพดำเนินการให้มีความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป เพื่อป้องกันอันตราย สร้างความปลอดภัย และให้เกิดความประทับใจ แก่นักท่องเที่ยวเพื่อความปลอดภัยในเบื้องต้น จะดำเนินการให้มีป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งข้อมูล ป้องกันอัตรายที่จะเกิดแก่นักท่องเที่ยว เตรียมห่วงยางหากมีเหตุจะได้ดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ตลอดทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้มีแหล่งท่องเที่ยวในทุกอำเภอ ทุกจังหวัดต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: