ตรัง เพื่อนรักบุกเข้าบ้านกะซวกเลือดสาดเชฟร้านอาหารญี่ปุ่น ร่างพรุน 3 แผล ก่อนโดนรวบพร้อมยึดมีดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เค้นสอบรับสารภาพเคยเป็นเพื่อนรักกัน แค้นโดนผู้ตายส่งแชทไปจีบเมีย และนินทาลับหลังในกลุ่มเพื่อนก่อนบุกมาถึงบ้านแทงดับ อย่างใจเย็น
บุกแทงเพื่อน : เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 1 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเลขที่ 108/2 ถ.พระงาม ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก. พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.สส. ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง และ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.9 (ชป.ตรัง) ก่อนแจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่บรรเทาหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง และเจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.ธนบุรีตรัง รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบร่องรอยคราบเลือดเจิ่งนองกระจายเต็มพื้นห้องและฟูกที่นอนภายในบ้าน ส่วนคนเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.ตรัง ไปก่อนหน้าแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจ (CPR) และช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างทางนำส่ง รพ. ทราบชื่อภายหลัง คือ นายดัสกร สังข์ทอง หรือเจมส์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.3 ต.เกาะเปียะ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง มีอาชีพเป็นเชฟร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังใน จ.ตรัง พบบาดแผลโดนกระหน่ำแทงเข้าบริเวณหน้าอก จำนวน 3 แผล ด้วยอาวุธมีดปลายแหลม ส่วนคนร้ายคือเพื่อสนิทได้วิ่งหลบหนีไป
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ร้านอาหารผวา!! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ป่วน อ้างสั่งอาหารหรู "พระกระโดดกำแพง" หลอกร้านดังเกือบเสียเงินแสน
- "ประเสริฐ รักไทย” ประกาศชน “บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” สู้ศึกชิงเก้าอี้ อบจ.ตรัง
- ตรัง "โลกเปลี่ยน เราไม่เปลี่ยน" บอกรักทะเลด้วยสองมือ ณ หาดฉางหลาง ทะเลตรัง ก้าวขา-พาสองมือเก็บขยะทะเล รังสรรค์งานศิลป์
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวน ทราบว่า ก่อนเหตุขณะที่ผู้ตายนั่งดูทีวี และเล่นโทรศัพท์มือถือ อยู่ในบ้านพร้อมกับภรรยา และลูกเลี้ยง ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นเข้ามาถามพ่อตาคนตายว่า “เจมส์” อยู่ไหม ก่อนเข้าไปใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงไม่ยั้งมือ ต่อมาเวลา 12.30 น.วันที่ 2 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนฯ แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดตามจับกุมตัว นายปณิธาน ส่องช่วย หรือจั้ง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.11 ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง ได้ที่บ้านพักห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม. พร้อมยึดของกลาง มีดปลายแหลมความยาวประมาณ 14 ซม. จำนวน 2 เล่ม ใส่อยู่ในซองหนังสีน้ำตาล ตรวจยึดได้บริเวณบ้านเลขที่ 221 ม.8 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เสื้อยืดคอกลมสีดำ จำนวน 1 ตัว ด้านหน้าปักตัวหนังสือสีขาว เขียนว่า Mc Jeans หมวกกันน็อคสีดำ จำนวน 1 ใบ ผ้าขาวม้าลายตาราง สีแดง-ดำ-ขาว จำนวน 1 ผืน ตรวจยึดได้บริเวณขนำไม่มีเลขที่ ม.2 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง พร้อมทั้งได้ตรวจยึดรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง-เทา ทะเบียน ขยร 995 ตรัง จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการเค้นสอบสวน นายปณิธาน หรือจั้ง ยังมีอาการลักษณะคล้ายคนเมา ยังให้การวกวนก่อนรับสารภาพเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งผู้ตายเคยเป็นเพื่อนรัก แค้นผู้ตายแชทไปจีบภรรยา และนินทาลับหลังกับกลุ่มเพื่อนก่อนบุกมาแทงถึงบ้าน อย่างไรก็ตามทาง ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การ โดยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ก่อนควบคุมตัวไปฝากขังชั้นศาลในช่วงสายวันนี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงไปบ้านที่เกิดเหตุ พบยังมีกองเลือดบนพื้นและบนฟูกที่นอน และได้พบกับ นายวิสุทธิ์ เพ็ชรขัน อายุ 61 ปี พ่อตาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนยืนเลี้ยงวัวอยู่หลังบ้าน จู่ๆผู้ก่อเหตุได้ขับรถ จยย.มาจอดหลังบ้านพร้อมกับเดินลงมา ตนก็ถามว่าจะไปไหน แต่คนก่อเหตุไม่พูด ตนจึงถามไปว่า จะไปหาเจมส์ใช่ไหม? คนก่อเหตุก็พยักหน้า ตนก็บอกว่าไปเข้าทางหน้าบ้าน เพราะเข้าทางหลังบ้านพื้นมันแฉะสกปรก คนก่อเหตุบอกว่าไม่เป็นไร ทางนี้ผมเคยมา คนก่อเหตุก็เข้าบ้านไป พอพูดแค่นั้นตนก็เอาหญ้าให้วัวต่อ ต่อมาประมาณ 10 นาที หลานชายตนอายุ 12 ขวบ ก็วิ่งมาบอกว่าเจมส์ถูกแทง จึงรีบมาดู ก็เห็นคนก่อเหตุถือมีดอยู่ ก็ไม่กล้าเข้าไป เลยพาหลานชายออกไปฝากกับเพื่อนบ้านไว้ก่อน ส่วนผู้ก่อเหตุก็เดินไปคร่อมรถจักยานยนต์แล้วรีบขี่ออกไป
ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงชกต่อยกัน แต่ตนไม่รู้ว่าก่อนหรือหลังถูกแทงเพราะภรรยาตนเป็นคนได้ยิน ที่ผ่านมาไม่เคยรู้จัก เพียงแค่เคยเห็นหน้า ซึ่งเจมส์ก็เพิ่งย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ พร้อมกับภรรยาได้แค่ 1 อาทิตย์กว่าๆ เพราะเมื่อก่อนทำงานอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ได้ย้ายกลับมาทำที่ จ.ตรัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่รู้เลยเพราะอะไร และอีกทั้งเจมส์ก็เพิ่งมาอยู่ รู้สึกตกใจมาก คนร้ายโหดและใจเย็น เดินเข้าออกจากบ้านอย่างนิ่มๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยอมรับว่าโหดจริงๆ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ อีกอย่างตนเป็นห่วงหลานเพราะเกรงว่าหลานจะถูกทำร้ายไปด้วยหากตนเข้าไปช่วย.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: