สงขลา-สะเดา โชเฟอร์ขับรถบรรทุกสินค้าหัวร้อน ท้าชกตำรวจจราจร หลังจากจอดรถซ้อนคันกลางถนน และถูกสั่งให้กลับรถไปต่อคิวเหมือนคันอื่นๆ ล่าสุดทางบริษัทเจ้าของรถสั่งพ้นสภาพพนักงาน หลังวันก่อเหตุ
4 ธันวาคม 2566 จากเหตุการณ์นาทีคนขับรถเทรลเลอร์ของบริษัทแห่งหนึ่งได้จอดรถซ้อนคันกลางถนนกาญจนวานิช ฝั่งขาออกประตูด่านตรวจชายแดนไทย-มาเลเซีย บ้านด่านนอก ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งคนขับรถได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.สะเดา อย่างดุเดือด
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรพยายามเปิดประตู และบอกให้คนขับรถขยับรถเข้าข้างทาง แต่คนขับรถไม่ยอม โดยหันหัวรถจอดชิดปิดท้ายรถบรรทุกที่กำลังต่อคิวจะยูเทิร์น พร้อมกับพูดจาหยาบคาย ท้าทายและท้าชกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ให้ถอดชุดตำรวจแล้วมาต่อยกันตัวต่อตัว” ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ของชาวบ้าน รวมถึงรถของนักท่องเที่ยวที่กำลังรอจะเข้าด่านสะเดา ไม่สามารถขับผ่านไปได้ ทำให้การจราจรติดขัด ยาวหลายกิโลเมตร
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุจุดกลับรถ ถนนกาญจนวานิช บ้านด่านนอก ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมทั้งติดตามหาข้อเท็จจริง โดย พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.สะเดา พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.ต.อวยพร อุบลพันธ์ สวป.สภ.สะเดา ทำการชี้แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พ.ต.ต.อวยพร อุบลพันธ์สวป.สภ.สะเดา เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.45 น. ( 2 ธันวาคม 2566 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.สะเดา กำลังปฎิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณหน้าด่านสะเดา ระหว่างนั้นได้มีรถเทรลเลอร์แซงซ้ายขึ้นมาเพื่อจะลัดคิวผ่านด่านไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งช่องถนนเลนขวาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้จัดช่องทางเพื่อให้รถต่อคิวเข้าด่าน ปรากฎว่าคนขับได้พยายามเบียดแทรกคิว แต่คนขับรถคันอื่นที่ต่อคิวอยู่ไม่ยอมให้แซงเป็นเหตุให้รถคันดังกล่าวจอดขวางการจราจรอยู่กลางถนน จึงทำให้เกิดการจราจรติดขัด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้มาที่จุดเกิดเหตุ และได้แจ้งคนขับรถให้วนรถกลับไปต่อคิวเหมือนกับรถคันอื่นๆ แต่คนขับรถไม่ปฎิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ พร้อมกับแสดงกิริยาไม่สุภาพกับเจ้าหน้าที่ และใช้ถ้อยคำหยาบคายและท้าชกเจ้าหน้าที่
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนานเกือบ 1 ชม. แต่ทางคนขับรถยังไม่ยอมเคลื่อนย้ายรถ จนในที่สุดคนขับรถได้เปิดประตูลงมาและเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปที่จุดตรวจ เพื่อทำการตรวจสอบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายอยู่บนรถหรือไม่ แต่ทางคนขับรถกลับโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว เพื่อให้คนขับรถมีอารมณ์เย็นลง
โดยหลังการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ได้พยายามอธิบายว่ากล่าวตักเตือนให้ทราบว่าพฤติกรรมดังกล่าว เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน จนกระทั่งคนขับรถได้เกิดความสำนึกกับพฤติกรรมของตนเอง และได้มีการขอโทษเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ได้จัดทำประวัติก่อนจะปล่อยตัวไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น.เจ.พี. ทรานสปอร์ต อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา เพื่อเข้าพบกับทางเจ้าของบริษัทเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางเลขาของบริษัทได้แจ้งว่าทาง เจ้าของบริษัทเดินทางไปทำธุระที่ต่างประเทศ
โดยเปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตนได้สอบถามทางคนขับรถเทรลเลอร์ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทางคนขับได้ยอมรับกับตนว่าได้ทำผิดกฎจราจร และได้เกิดอารมณ์โมโหฉุนเฉียว ทางตนจึงได้ว่ากล่าวไปหลายคำ ว่าการกระทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนะ จึงเป็นเหตุให้โดนทางตำรวจว่ากล่าวตักเตือน ตนก็เลยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามระเบียบไปเลย ซึ่งการดำเนินการเป็นอย่างไร ตรงนี้ทางตนไม่ทราบ
แต่ทางตนได้ปลดคนขับรถคนดังกล่าวออก และสิ้นสภาพพนักงานตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ทางตนก็รับไม่ได้กับกริยาการกระทำของคนขับรถ เบื้องต้นวันเกิดเหตุทางตนได้เดินทางไปที่โรงพักสะเดาด้วยตนเอง พร้อมขอโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว
และตั้งแต่เกิดเรื่องมาทางตนได้กำชับกับคนขับรถเทรลเลอร์ทุกคนในบริษัท ว่าถ้าหากต้องเข้าด่านฯต้องให้เคารพกฎหมายจราจร ทั้งนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งวันนั้นทางตนต้องยอมทิ้งตั๋วเครื่องบินที่จะต้องเดินทางไปสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะไปเคลียร์ปัญหานี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: