ชัยภูมิ – ทำภาพลักษณ์ชื่อจังหวัดชัยภูมิ ได้รับความเสียหาย หลังมีสื่อบางแห่ง(เฉพาะบางคนเท่านั้น)นำข้อมูลไปเสนอข่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ว่ามีแก๊งเงินกู้ดอกโหดไล่ยิงกันกลางเมืองไปทั่วย่านถนนโลกีย์-ไม่เว้นหน้าจวนฯผู้ว่าฯ ล่าสุด ผู้ว่า-ผู้การ-นายกเล็ก-ผู้ประกอบการ ร้านค้า ภาคเอกชน ร่วมเปิดแถลงด่วนให้สื่อมวลชนทั้งจังหวัดช่วยแจ้งข้อเท็จจริง เพื่อไม่อยากให้มีสื่อบางแห่งทำให้สังคมคนในทั่วประเทศ เข้าใจภาพลักษณ์ของจังหวัดได้รับความเสียหายต่อกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อีกด้วย!
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 ธันวาคม 2566 นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ( ผวจ.ชัยภูมิ ) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุชาติ คล้ายจันทร์พงษ์ ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ( ผบก.จว.ชัยภูมิ ) พร้อมด้วย นายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ และตัวแทนผู้ประกอบการ ร้านค้า ภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวด่วนที่ห้องประชุม สภ.เมืองชัยภูมิ
หลังมีสื่อบางแห่งนำเสนอข่าวแก๊งเงินกู้ไล่ยิงกันเกินจริง ทำภาพลักษณ์ชื่อเสียงจังหวัดชัยภูมิ ได้รับความเสียหาย ในการนำข้อมูลไปเสนอข่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ว่ามีแก๊งเงินกู้ดอกโหดไล่ยิงกันกลางเมืองไปทั่วย่านถนนโลกีย์-ไม่เว้นหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ
ซึ่งในการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้มีการนำผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวมาได้แล้ว 2 คน ซึ่งวันเกิดเหตุครั้งนี้เมื่อช่วงวันที่ 1 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ และอีกคนที่มีการใช้อาวุธปืนยิงนักท่องเที่ยวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมือง ได้รับบาดเจ็บที่ขา 3 คน มาร่วมแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
โดย นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รอง ผวจ.ชัยภูมิ รักษาราชการแทน ผวจ.ชัยภูมิ ได้ชี้แจงแถลงว่า สถานที่เกิดเหตุที่มีสื่อแห่งหนึ่งระบุว่าเป็นแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหดไล่ยิงกันมาถึงหน้าจวน หรือหน้าบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งไม่เป็นความจริง รวมทั้งผู้ที่ถูกยิงก็แจ้งว่าไม่เป็นความจริงมีการนำเสนอข่าวออกมาไม่เป็นความจริงในครั้งนี้อีกด้วย
ซึ่งวันเกิดเหตุ มีวัยรุ่นดังกล่าว 2 ได้ขี่รถ จยย.หลบหนีไป ก่อนที่เพื่อนผู้เสียหายที่ถูกยิง 3 คน บริเวณหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ได้ช่วยกันนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาตัว ที่ รพ.ชัยภูมิ
โดยใช้ถนนเส้นทางถนนนนทนาคร ซึ่งเป็นเส้นทางใกล้ที่สุดกับ รพ.ชัยภูมิ ไม่ใช้ถนนโลกีย์ ตามที่มีเนื้อข่าวผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งระบุ ทำคนที่ทราบข่าวที่ออกไปทำให้เกิดความแตกตื่นว่ามีแก๊งเงินกู้ดอกโหดไล่ยิงกันย่านถนนโลกีย์ไปทั่วเมือง ทำให้เกิดภาพลักษณ์ต่อจังหวัดชัยภูมิ ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากไปทั่วประเทศในขณะนี้ด้วย
ขณะที่ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบให้ พ.ต.อ.สมิต นันนฤมิตร ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้แถลงว่าตามเนื้อข่าวที่ที่สื่อบางแห่งนำเสนอไป ว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุ เป็นกลุ่มแก๊งเงินกู้นอกระบบต่างถิ่น เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 3-4 ครั้ง ก่อนหน้านี้ยกพวกบุกไปยิงถล่มร้านขายน้ำกระท่อมและยังยกพวกที่เป็นเด็กช่างกลบุกพังบ้านคู่กรณี ในตัวเมืองชัยภูมิ ล่าสุดยังก่อเหตุใช้ปืนตบหน้าคู่กรณีในผับดังฯ พอมีการแจ้งความเอาผิด ก็มีการจ่ายเงิน 1.5 แสน เพื่อเป็นค่าทำขวัญให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ ในทุกครั้งที่แก๊งนี้มีเรื่อง หัวหน้าแก๊งที่อยู่ต่างจังหวัด จะให้คนมีสีในเมืองชัยภูมิ นำเงินมาเคลียร์ชดใช้ค่าเสียหายให้คู่กรณีตลอด เพื่อให้คดีความต่าง ๆ จบตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบ
ซึ่ง พ.ต.อ.สมิต นันนฤมิตร ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ยืนยันว่าจากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิง ได้เกิดเขม่นกันในเรื่องขอเฟซบุ๊กแย่งแฟนสาวกันจีบผู้หญิงในผับแล้วไม่พอใจกัน เมื่อผับเลิกวัยรุ่นคนก่อเหตุได้ขี่รถ จยย.ออกมาหน้าสถานบันเทิง แต่อีกฝ่ายที่ถูกยิงได้พาพวกตามมาจะเข้าร่วมทำร้าย 1 ในผู้ก่อเหตุฝ่าย จยย.ที่มีปืนดันแปลกเป็นอาวุธปืนสั้นมาด้วย จึงชักปืนออกมายิงขู่ และเห็นถ้าไม่ดีที่จะถูกรุมทำร้าย จึงยิงใส่กลุ่มผู้บาดเจ็บได้รับบาดเจ็บที่ขาไปรวม 3 คน ไม่ได้เป็นแก๊งเงินกู้โหดอะไรเลย เป็นเรื่องทะเลาะเรื่องแฟนสาวกันเท่านั้น ไม่มีมาเฟียแก๊งเงินกู้นอกระบบต่างถิ่น ไม่มีคนมีสีในเมืองชัยภูมิ นำเงินมาเคลียร์ชดใช้ค่าเสียหายให้คู่กรณี ตามที่มีข่าวบางแห่งออกไปเลย และอยากให้แก้ข่าวที่ครั้งนี้ไม่ตรงกับความจริงในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการทะเลาะกันเรื่องมาขอเฟซบุ๊กสาวกันเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตามระเบียบกฏหมายต่อไป
ส่วนทั้งตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้า ภาคเอกชน นายหลัก สัมพันธรักษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ และ นายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ กล่าวว่า ซึ่งถนนที่ออกข่าวไปนั้น ไม่มีชื่อถนนโลกีย์ ตามที่นักข่าวรายหนึ่งเขียนไป ซึ่งเป็นการทำให้เกิดความเสื่อมเสีย สร้างความเสียหายให้กับทางจังหวัดชัยภูมิในครั้งนี้ด้วย เพราะคำว่าถนนโลกีย์ความหมาย เป็นถนนย่านที่มีการค้าประเวณี หรือ อาบอบนวด ซึ่ง จ.ชัยภูมิ ไม่มีแหล่งแบบนี้ มีเพียงถนนนนทนาคร ที่ จ.ชัยภูมิ จัดเป็นโซนนิ่ง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีย่านสถานบันเทิง มีร้านค้า บ้านเรือนประชาชน ร้านอาหารที่มีชื่อของจังหวัด ที่เป็นจุดรองรับให้คนมาผักผ่อนจับจ่ายของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว
ซึ่งหลังมีข่าวแบบนี้ขึ้น ก็อยากจะขอความเป็นธรรมคืนให้จังหวัดชัยภูมิ ด้วยว่าเมืองชัยภูมิ ไม่มีถนนโลกีย์ตามที่เป็นข่าว ไม่อยากให้มีสื่อบางแห่งทำให้สังคมและประชาชนที่ทราบข่าวไปในทั่วประเทศเข้าใจภาพลักษณ์ของจังหวัดได้รับความเสียหายต่อกรณีที่เกิดขึ้นอีกในครั้งนี้ด้วย
