X

เสียงท่วมท้น! ‘เฉลิมชัย’ ผงาดหัวหน้า ปชป.คนที่ 9

กรุงเทพฯ – พรรคประชาธิปัตย์ มีมติเลือก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ด้วยคะแนนเสียง 88.5% ยืนยัน กรีดเลือดออกมาก็เป็นสีฟ้า ประกาศเดินหน้าสร้างเอกภาพภายในพรรค ยึดมั่นหลักการและอุดมการณ์ของพรรค ขณะที่ผู้สมัครอื่นที่ขาดคุณสมบัติ

วันที่ 9 ธันวาคม 2566 ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ครั้งที่ 3 แทน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ลาออกหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

หลังใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ที่ประชุมมีมติเสียงส่วนใหญ่ 88.5 % เลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่

ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ได้ขอถอนตัวจากผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และยังประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ก่อนเดินทางกลับไป

จากนั้น ที่ประชุมจึงเสนอชื่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน, นางสาววทันยา บุนนาค และพันโทหญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ลงแข่งขัน

แต่เนื่องจากนางสาววทันยา เป็นสมาชิกพรรคน้อยกว่า 5 ปี และไม่เคยเป็น ส.ส.ตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 31 (6) ที่กำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นายขยัน วิพรหมชัย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสนอชื่อ นางสาววทันยา จึงขอเสียงจากที่ประชุม 3 ใน 4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับพรรคดังกล่าว

ขณะที่นายชวน หลักภัย ลุกขึ้นขอให้ที่ประชุมยกมือสนับสนุนให้ได้ 3 ใน 4 ขององค์ประชุม เพื่อให้โอกาส นางสาววทันยา ลงแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่เสียงองค์ประชุมที่ให้งดเว้นข้อบังคับ ไม่ถึง 3 ใน 4 คือ 169 เสียง จึงถือว่าไม่ได้รับการคัดเลือกชิงหัวหน้าพรรค

เช่นเดียวกับ พันโทหญิงฐิฏา ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติชิงตำแหน่งเช่นเดียวกัน

ทำให้เหลือ นายเฉลิมชัย เพียงคนเดียว

กรีดเลือดมาก็เป็นสีฟ้า ตลอดเวลาที่อยู่กับพรรคก็ยึดหลักการและอุดมการณ์ของพรรคไม่เปลี่ยนแปลง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมก่อนลงมติว่า

“กราบเรียนท่านชวน หลีกภัย ท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ท่านผู้บริหารพรรค ท่านผู้อาวุโส ท่านสมาชิกพรรคที่เคารพทุกท่านครับ

ผมเรียนอย่างนี้ว่า ที่ผมขึ้นมาพูดนี้ ขออนุญาตอาจจะไม่ใช่เป็นวิสัยทัศน์ แต่อยากจะมาพูดในบางสิ่งบางอย่างที่เป็นความรู้สึกของผม ผมขอกราบเรียนท่านสมาชิกทุกท่านว่า

ผมรู้ว่าการตัดสินใจของผมในวันนี้มันเจ็บ มันทำลายสิ่งที่ผมสร้างมาทั้งชีวิต เข้าใจครับ แต่ผมพูดอยู่ตลอดเวลาว่า ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์เมื่อสักครู่ ผมกรีดเลือดออกมาก็เป็นสีฟ้า ไม่มีสีอื่นเลย แล้วตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ในประชาธิปัตย์ ก็ยึดหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และเป็นคนเคร่งครัดในหลักการด้วยซ้ำ ก็เรียนท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์แล้ว

เมื่อผมมาเป็นรัฐมนตรี พรรคให้โอกาส ผมยืนยันเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต กล้าพูดนะครับว่า ผมไม่มีมลทินเรื่องนี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่เวลาที่ผมอยู่กระทรวงเกษตรฯ ผมกล้าท้าข้าราชการให้ตรวจสอบผมอีกครับ เพราะว่าผมไม่ได้ไปในนามของตระกูลศรีอ่อน ผมไปในนามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งติดตัวผม แล้ววันนี้ก็เช่นเดียวกัน

เมื่อวานผมก็สัมภาษณ์ไป บอกวันนี้ถึงผมจะมีแต่วิญญาณแต่ผมยังมีความสำนึกในพระคุณ ในทุกอย่างที่เป็นประชาธิปัตย์ ที่ทำให้ผมมีโอกาสมายืนวันนี้ ผมเรียนท่านสั้นๆ ว่าผมมีความจำเป็นครับ และผมก็อยากจะเห็นพรรคเดินไปข้างหน้า

ผมจะทำทุกอย่างให้พรรคมีเอกภาพ ผมจะทำให้พรรคซึ่งมีอยู่แล้วนี้ ยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญเมื่อสักครู่ที่ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ก็คือ ผมยืนยันกับหัวหน้าอภิสิทธิ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เป็นนะครับ เราไม่เคยเป็นตลอดระยะเวลา 22 ปี ที่ผมอยู่ประชาธิปัตย์ เราไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ หลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมา มันอาจจะทำให้การเมืองของพรรคสะดุด ผมก็จะพยายามทำทุกอย่าง เหมือนที่ผมบอกละครับว่า ผมมาทำงานในภารกิจหนึ่ง

ผมจะพยายามทำตรงนี้ให้ดีที่สุด จะพยายามทำให้เป็นเอกภาพ และทำให้ดีที่สุดและจะไม่มีวันทำลายหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณมากครับ” นายเฉลิมชัย กล่าว

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"