นช.เรือนจำนนทบุรี หลบหนีงานกองนอก เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 5 ชั่วโมงไล่ล่าจนพบตัว นช.สารภาพอารมณ์ชั่ววูบ
เวลา 11.00 น.วันที่ 11 ธ.ค.66 พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี รับการประสานจากเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ว่า น.ช.เกรียงไกร วิมลพิมพ์ อายุ 44 ปี เป็นนักโทษคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ศาลตัดสิน 3 ปี 9 เดือน เป็นชั้นดีที่ได้เข้าโครงการหับเผยฝึกวิชาชีพก่อนได้รับการปล่อยตัว วันที่ 22 มี.ค. 2567 ได้หลบหนีขณะออกมาทำงาน กองนอก ประจำร้านกาแฟ หับเผย ซึ่งเป็นร้านสวัสดิการของทางเรือนจำ อยู่ติดกับเรือนจำ
ข่าวน่าสนใจ:
หลังเกิดเหตุ ได้มีการประสานตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ช่วยติดตามตัวและสภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ภูมิลำเนาของน.ช.เกรียงไกร วิมลพิมพ์ อายุ 44 ปี โดยพบว่า นช.เกรียงไกร หลบหนีขณะออกมาทำงานร้านกาแฟ หับเผยเมื่อเวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ได้เปิดร้านตามปกติแต่ไม่พบว่า นช.เกรียงไกร เข้ามาทำงาน จึงได้ตรวจสอบพบว่า นช.เกรียงไกร ได้นั่งรถสามล้อเครื่อง เข้าไปทางซอยเรวดี ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ก่อนหายตัวไป
โดยเจ้าหนัาที่เรือนจำและตำรวจ ได้เดินทางมายังบ้านของ น.ช.เกรียงไกร วิมลพิมพ์ ภายในซอยทานสัมฤทธิ์ 21 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี แต่ไม่พบตัว นช.เกียงไกร มีเพียงนายไพฑูรย์ วิมลพิมพ์ อายุ 74 ปี พ่อของนช.เกียงไกร
นายไพฑูนย์ กล่าวว่า หลังลูกชายถูกจับดำดนินคดี ได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำตลอดทุกอาทิตย์ ก่อนหน้าที่ไปเยี่ยมลูกยังบอกว่า จะพ้นโทษแล้วและจะกลับไปบ้านให้พ่อตัดผมให้ แต่จะไม่มาอยู่ที่บ้ายหลังนี้เพราะกลัวว่าจะหวนกลับไปทำสิ่งไม่ดีอีก พึ่งจะมาทราบว่าลูกชายหลบหนี ตนไม่ทราบว่าหนีไปไหน และปีหน้าลูกชายจะพ้นโทษแล้วเหลือเพียงไม่กี่เดือน จึงไม่ทราบสาเหตุ
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้กับเรือนจำ พบว่า น.ช.เกรียงไกร ได้เข้าไปทำงานที่ร้านหับเผย ก่อนจะนำขยะใส่รถเข็นไปทิ้งด้านข้างเรือนจำ แล้วหลบหนีขึ้นรถสามล้อเครื่อง มุ่งหน้าไปซอยเรวดี และเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุด นช.เป็นชุดนอกแล้วเดินออกปากซอยด้านถนนติวานนท์
ล่าสุดเวลา 16.30 น.เจ้าหน้าที่เรือนจำ สามารถจับกุมตัว น.ช.เกรียงไกร วิมลพิมพ์ ได้ที่ป้ายรถประจำทางปากซอยประชาชื่น-นนทบุรี ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี ก่อนนำตัวกลับมาสอบสวนที่ร้านหับเผย
ดร.กลยุทธ พานาสันต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมที่ได้มาปฏิบัติงานที่ร้านหับเผยของเรือนจำมา 1 ปีแล้ว ได้หลบหนีไปจากบริเวณตรงที่ทิ้งขยะ ทราบแรงจูงใจเบื้องต้นว่าเขาเครียดเฉยๆ แล้วคิดจากอารมณ์ชั่ววูบเป็นหลัก โดยเสื้อผ้าที่มีการเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่อยู่ในกองขยะอยู่แล้ว เบื้องต้นจากคำให้การของผู้ต้องขังไม่ได้มีการเตรียมการ ถ้าเป็นการเตรียมการอุปกรณ์จะไม่ใช่อย่างนี้ และเขาไม่ได้มีเงินติดตัวไป โดยผู้ต้องขังรับโทษมาตั้งแต่ปี 63 แล้วจะพ้นโทษวันที่ 22 มีนาคมปี 67 เขาจะมีหน้าที่ล้างจานที่ร้านหับเผยและเอาขยะไปทิ้ง ซึ่งวันนี้เขาเดินไปทิ้งขยะ 3 รอบแล้ว พอดีเขาไปเห็นเสื้อผ้าอยู่ในถุงดำในกองขยะพอดี ก็ถามเขาดูว่าทำไมอยากหนีเขาบอกว่าอารมณ์ชั่ววูบ โดยโปกรถรับจ้างหนีไป เมื่อไปถึงจุดหมายแล้วได้ไปขอเงินจากคนข้างทาง โดยให้ข้อมูลกับคนที่ให้เงินว่าเป็นผู้ต้องขังถูกปล่อยตัวจะกลับบ้านไปหาพ่อ
ดร.กลยุทธ กล่าวอีกว่า การจับกุมเป็นเจ้าหน้าที่ชุดราชทัณฑ์ร่วมกับตำรวจนนทบุรี ซึ่งตั้งวอร์รูมที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี โดยไปจับคุมได้ที่ริมถนนประชาชื่น จากการพูดคุยเขาบอกว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบถ้าหากเขามีแรงกดดันเขาออกมาตั้งแต่ 1 ปีแล้ว ประกอบกับเขาจะได้รับการปล่อยตัวแล้ว ก็จะมีการเพิ่มโทษในข้อหาที่หลบหนีการควบคุมตามกฎหมายอีกประมาณ 8 เดือน แล้วก็ไม่มีสัญญาณอะไรล่วงหน้าที่จะบ่งบอกว่าเขาจะหลบหนีเลยส่วนการออกมาทำงานข้างนอกจะเป็นการทำงานตามชั้น แต่เมื่อเขาได้หลบหนีมีการกระทำความผิดแล้วจะไม่มีชั้น ทางผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้ และต้องแยกเป็นเรื่องๆ ไปคนละบริบทกันกับที่หนีออกจากเรือนจำไปก่อนหน้านี้ คือผู้ต้องขังในร้านหับเผยนนทบุรี เป็นผู้ต้องขังชั้นดีที่ออกมาทำงานแล้ว 1 ปีแรงจูงใจและบริบทของเขาจะต่างกัน ซึ่งมาตรการเรามีการคัดกรองเป็นหลักอยู่แล้วแต่กรณีนี้เหมือนกับผู้ต้องขังเคยเสพยามาแล้วด้วย เหมือนกับอารมณ์ชั่ววูบแวบนึงที่อยากกลับบ้าน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: