สระแก้ว – ผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องเรียนเครือข่ายภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีถูกกลุ่มแชร์หลอกให้ลงทุนมูลค่าสูงเกือบ 20 ล้านบาท มีผู้เสียหายไม่น้อยกว่า 150-200 คน ในพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว นำโดย นายอัมรินทร์ ยี่เฮง ได้รับการร้องเรียนและได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานต่าง ๆ จากกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากกรณีการหลอกให้เล่นแชร์และหลอกให้ร่วมลงทุน จนมีผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจากการรวมตัวของผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ผู้เสียหายที่มาร้องเรียนในชุดแรก ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงเกือบ 20 ล้านบาท ซึ่งจากผู้เสียหายทั้งหมด ซึ่งเดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเอง ประมาณ 20 คน คาดว่า จะมีผู้เสียหายไม่น้อยกว่า 150-200 คน ยังไม่นับบุคคลที่อยู่ต่างประเทศและจากต่างพื้นที่
ทั้งนี้ นายอัมรินทร์ เปิดเผยว่า พฤติกรรมของแชร์หลอกลวงกลุ่มดังกล่าว มี น.ส.ณัชชา พะวงแสง ชาว อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เป็นทาวแชร์ และกำหนดตั้งวงแชร์ขึ้นมา เช่น วงละ 150,000 บาท มีผู้เล่นในวง 15-20 คน และในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งของจำนวนมือแชร์ทั้งหมด จะเป็นมือผี ส่วนที่เหลือจะเป็นคนใกล้ชิดและคนในครอบครัวของท้าวแชร์ ส่วนคนที่ไม่รู้ก็จะเข้าไปอยู่ในกลุ่มแชร์ด้วย และตกเป็นเหยื่อ โดยเมื่อถึงเวลาเปียแชร์ หากเหยื่อเปียได้ ทาง น.ส.ณัชชา ก็จะถามว่า จะรีบใช้เงินไหม หากไม่รีบเอาเงินที่ได้จากการเปียแชร์ไปปล่อยเงินกู้ แล้วก็เสนอดอกเบื้ยสูง เช่น ยอดเงิน 50,000 บาท ก็จะได้ดอกสูงถึงวันละ 1,000 บาท แต่ถ้าหากจะรีบใช้เงิน ก็จะโอนเงินให้ แล้วก็จะหาวิธี นำเงินกลับมาคืนเหมือนเดิม โดยเสนอดอกให้สูง ๆ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับคนที่เล่นแชร์
นอกจากนั้น ยังพบอีกว่า เมื่อผู้เสียหายทั้งหมดได้รับทราบข้อมูลจาก การล้มของวงแชร์ต่าง ๆ ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 40-50 วง แต่ละวงแชร์จะแตกต่างกัน มากน้อย ขึ้นอยู่กับตัวของ น.ส.ณัชชาฯ จะเป็นคนตั้ง และในการตั้งวงแชร์นั้น ก็จะมีคนในครอบครัว มีทั้งพ่อและแม่ของ น.ส.ณัฐชา ร่วมอยู่ด้วย บางวงบางกลุ่มรวมไปถึงร่วมลงทุนด้วย และ น.ส.ณัชชาฯ ยังมีพฤติกรรมชอบโพสต์ข้อความชวนเชื่อ เพื่อให้คนมาร่วมลงทุน โดยโพสต์ข้อความ พร้อมกับรูปภาพทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ได้มาจากการหลอกลวงคนให้ร่วมลงทุน และร่วมเล่นแชร์ จนทำให้มีความน่าเชื่อถือ
ข่าวน่าสนใจ:
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
- โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เพื่อเกษตรกรพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการบริการทางวิชาการและได้รับการแก้ปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางผู้เสียหายหลายคน ได้เดินทางไปติดตามทวงถาม ถึงสาเหตุจากการเงียบหายและวงแชร์ล้ม ก็ได้รับการเจรจาว่า น.ส.ณัชชาฯ จะรับผิดชอบจำนวนเงินดังกล่าว ซึ่งบางรายมีการทำสัญญาไว้ และบางราย มีการยึดทรัพย์สินบางอย่าง เช่น วัว หรือรถจักรยานยนต์ และต่อมา น.ส.ณัชชาฯ ก็เงียบหาย ไม่ได้ติดต่อกับผู้เสียหายรายใดอีก จนทำให้ผู้เสียหายทั้งหมด เดินทางไปแจ้งความไว้ที่สถานนีตำรวจ สภ.เขาฉกรรจ์ และท้องที่อื่น ๆ แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จึงรวมตัวกันเพื่อร้องเรยนกับเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว
ล่าสุด ภายหลัง นายอัมรินทร์ ยี่เฮง ได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ จากผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมกับนัดผู้เสียหายบางส่วนให้รวมตัวกัน พร้อมกับเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เขาฉกรรจ์ พร้อมกับร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเขาฉกรรจ์ หน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่ง นายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอเขาฉกรรจ์ ได้แจ้งไปยัง พ.ต.อ.เข็มชาติ สุวะศรี ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ รับทราบ พร้อมสั่งการให้ พ.ต.ท.อุดม อินทรประเสริฐ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ ให้ดำเนินการประสานกับ พนักงานสอบสวน รวบรวมและสอบสวนผู้เสียหายทั้งหมด รวมไปถึงการสืบทรัพย์สินและแจ้งข้อกล่าวหาให้กับ น.ส.ณัชชาฯ ทราบว่า กระทำผิดในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ รวมไปถึงทำเรื่องส่งไปยัง ปปง. เพื่อเสนอ เรื่องดังกล่าวว่า เข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ เนื่องจาก เงินจำนวนดังกล่าว ได้มาจากการกระทำความผิด หรือทรัพย์สินดังกล่าวถูกผ่อนถ่ายหรือแปรเปลี่ยนเป็นอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ หรืออาจจะเป็นทองคำรูปพรรณ และทรัพย์สินอื่น ซึ่งหาก ปปง.พิจารณาแล้วว่า เข้าข่ายก็จะโดนคดี พ.ร.บ.ฟอกเงินด้วยอีก 1 คดี
อย่างไรก็ตาม นายอัมรินทร์ ระบุด้วยว่า ทางเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว มีเจตนา ด้วยความบริสุทธิ์ใจที่จะเข้าไปเจรจากับทางครอบครัวของ น.ส.ณัชชาฯ เพื่อให้ออกมาเคลียร์ทรัพย์สินดังกล่าว คืนให้กับผู้เสียหายทุกคน เพื่อที่จะได้มีที่ยืนในสังคม แต่ทางครอบครัวก็ปฏิเสธ และอ้างว่า ติดต่อ น.ส.ณัชชาฯ ไม่ได้ ส่วนทรัพย์สินต่าง ๆ นั้น ที่ได้มา ก็อ้างว่า เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ดังนั้น ทางเครือข่ายภาคประชาชนจึงปล่อยให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนของ สภ.เขาฉกรรจ์ ดำเนินการต่อไป ซึ่งพนักงานสอบสวนจะมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ขณะเดียวกัน ยังมีผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดย นายอัมรินทร์ จะประสานงานและแยกผู้เสียหายเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อเดินทางไปแจ้งความเพิ่มเติม หรือร้องเรียนไปยังสื่อต่าง ๆ ต่อไป
—————————–
ภาพ/เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: