เพชรบุรี -ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่ายาง ใช้เวลาแกะรอย โจรสาว 6 วัน หลังก่อเหตุบุกเดี่ยว ใช้อาวุธปืนพยายามจี้ชิงทอง รัานทองในห้างโลตัส สาขาท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โจรสาวอ้างว่า ขับรถจากนนทบุรี มาก่อเหตุที่เพชรบุรี เพื่อประชดสามี
จากกรณี เมื่อเวลา 20.00 น.คืนวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ได้มีคนร้ายเป็นหญิงบุกเดี่ยวเข้าไปก่อเหตุ พยายามจี้ชิงทอง ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ที่ตั้งอยู่ในห้างโลตัสสาขาท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แล้วรื้อค้นหวังชิงทอง แต่โชคไม่เข้าข้างเพราะก่อนหน้านั้นพนักงานทั้ง 5 คนได้ช่วยกันเก็บทองใส่ตู้เซฟเพื่อเตรียมจะปิดร้าน โดยพอคนร้ายรู้ว่าไม่ได้ทองแน่ จึงวิ่งหลบหนีออกไปทางถนนเพชรเกษม
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้สั่งการให้ ตำรวจในสังกัดภูธรจังหวัดเพชรบุรี สนธิกำลังหลายหน่วยลงพื้นที่ติดตามสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย และทราบว่า คนร้ายรายนี้เป็นผู้หญิง โดยหลังจากก่อเหตุได้เดินออกมาจากห้าง แล้วมาโผล่ริมถนนเพชรเกษมจากนั้นได้ถอดเสื้อคลุมสีดำออกยัดใส่กระเป๋าสีฟ้า เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปที่รถกระบะ
ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น D Max ออร์นิว 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ขจ 6679 กทม ของตนเองที่จอดไว้บริเวณริมถนน แล้วขับขี่ไปตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าเข้า กทม.
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมา ตำรวจได้สืบจนทราบว่า คนร้ายคือ น.ส.เดือนเด่น อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ม.8 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี อาศัยเช่าอพาตเม้นท์แห่งหนึ่งเขตนนทบุรี อยู่กับสามี ซึ่งมีอาชีพค้าขาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 เวลา 11.25 น. พ.ต.ท.อรรถพงษ์ นกขุนทอง รอง ผกก.สส.สภ.ท่ายาง พร้อมกำลัง ได้นำหมายค้นและหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 475/256 ลงวันที่21 ธันวาคม 2566 เดินทางไปที่อพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่งซึ่งตั้งในซอยบางขุนนนท์ 24 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. เพื่อจับกุมตัว น.ส.เด่นดวง
ทั้งนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.เดือนเด่นได้ในห้อง ซึ่งอยู่ในสภาพขาทั้งสองข้างถูกพันด้วยผ้าก๊อต ไม่สามารถที่จะวิ่งหลบหนีได้ โดย น.ส.เด่นดวง เผยว่า ตนเพิ่งวิ่งหนีออกมาจากกองเพลิงขณะเพลิงกำลังลุกไหม้ห้องพักของพี่สาวตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา จึงได้รับบาดเจ็บระดับ 2 ซึ่งต้องให้แพทย์ทำการรักษาอยู่
ส่วนคดีเกี่ยวกับการก่อเหตุบุกจี้ร้านทอง ภายในห้างโลตัสสาขาท่ายาง เมื่อช่วงค่ำวันที่15 ธันวาคม ที่ผ่านมา น.ส.เด่นดวง ยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง โดยช่วงเช้าตรู่ในที่ 14 ธันวาคม 2566 ตนเกิดมีปากเสียงด้วยเรื่องภาระค่าใช้จ่ายกับสามีอย่างหนัก จนตนตัดสินใจขับขี่รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น d max ออร์นิว 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ขจ 6679 กทม. ออกจากที่พัก โดยนุ่งเพียงกางเกงขาสั้น และเสื้อยืดกีฬาสีชมพู ระหว่างเกิดความคิดว่า อยากจะก่อเหตุประชดสามี ตนจึงเข้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่เขตสายใต้ กทม.เพื่อซื้อกางเกงวอร์มแบบมีแถบ ,เสื้อคลุมแบบมีฮู้ดสีดำ หมวกแก้ปสีดำ รองเท้าสีดำแบบรัดส้น ,แมสสีดำ และปืนปลอมสำหรับเด็กเล่น
จากนั้นได้ขับขี่รถมุ่งหน้าไปทางจังหวัดราชบุรี เพื่อตัดสินใจชิงทรัพย์ร้านทอง แต่ด้วยร้านทองมีผู้คนผ่านเยอะ จึงขับรถต่อมาที่เขตอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และขับตระเวนรอบห้างโลตัสกระทั่งจอดรถอยู่ริมถนนด้านหลังโลตัสเพื่ออาศัยหลับ กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 15 ธันวาคม ได้ตระเวณดูเส้นทางโดยรอบของห้าง และเห็นว่าไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน เวลา 19.30 น.ได้สวมชุดสีดำที่ซื้อเตรียมมา สวมใส่ทับชุดที่ตนเองสวมใส่อยู่ จากนั้นได้ขับรถมาจอดบริเวณศาลาริมทางหน้าทางเข้าหมู่บ้านหนองสัก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าโลตัส แล้วสะพายกระเป๋าสีฟ้าเดินข้ามถนนเข้าไปในห้าง แล้วฉวยโอกาส เดินถือปืนโดยมีผ้าสีฟ้าคลุมเอาไว้
เมื่อไปถึงที่เคาเตอร์ของร้านทอง ใช้ปืนปลอมขู่ ทำให้พนักงานตกใจรีบมุดลงไปใต้เคาท์เตอร์ ตนจึงปีนข้ามเข้าไปเพื่อค้นหาทองแต่ไม่พบแม้แต่สักเส้นเดียว จึงตัดสินใจเดินออกมาริมถนนเพชรเกษมทั้งๆ ที่ไม่ได้ทองติดมือมาสักเส้นเดียว ฝ่าความมืดแล้วถอดเสื้อคลุมและกางเกงใส่กระเป๋าสะพาย เดินข้ามถนนมาขับขี่รถกระบะหลบหนีเข้า กทม. ระหว่างทางได้นำกางเกง ปืนปลอม หมวก รองเท้า โยนทิ้งลงเเม่น้ำที่ จ.นนทบุรี
และ คืนวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ได้ขอค้างคืนกับพี่สาว แต่ขณะที่พี่สาวออกไปทำงาน ได้เกิดเพลิงไหม้ภายในห้องพัก ทำให้ ขาทั้งสองข้าง ของ น.ส.ดวงเด่น ถูกไฟไหม้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพนักงานสอบสวนพื้นที่เพลิงไหม้ อยู่ระหว่างการเชิญตัว น.ส.ดวงเด่น ไปให้ปากคำเพิ่มเติมในวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม แต่ น.ส.ดวงเด่น มาถูกตำรวจ สภ.ท่ายาง สืบทราบและเข้าจับกุมตัวได้เสียก่อน ทั้งนี้เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหา พยายามชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ” และควบคุมตัว น.ส.ดวงเด่น นั่งรถเข็นมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขั้นตอนการก่อเหตุทั้งหมด และนำตัวดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: