กรุงเทพฯ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยัน รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีความปลอดภัย ปิด 7 สถานีจนกว่าจะแก้ไขเรียบร้อย พร้อมเจรจาขยายระยะเวลาทดลองเดินรถฟรี ด้านรัฐมนตรีช่วยคมนาคม สั่งทุกหน่วยงานร่วมตรวจสอบทุกขั้นตอน สร้างความเชื่อมั่น ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
วันที่ 25 ธันวาคม 2566 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงชี้แจง กรณีโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู เกิดเหตุรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (Conductor rail) หลุดร่วงลงพื้นถนน และเกี่ยวสายไฟฟ้า บริเวณถนนติวานนท์ ระหว่างสถานีแคราย-สถานีแยกปากเกร็ด
โดยนายสุริยะ ยืนยันว่า ระบบการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความปลอดภัย สำหรับอุบัติเหตุในส่วนงานก่อสร้างสาธารณูปโภค ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2566 ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบทุกสถานี ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและวิศวกร ได้เข้าตรวจสอบอีกครั้ง ทำให้ช่วงเช้าของวันนี้ (25 ธ.ค.) สามารถเปิดให้บริการ 23 สถานี ตั้งแต่สถานีแจ้งวัฒนะ (PK08)-สถานีมีนบุรี (PK30) ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.
ในส่วนสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ไปจนถึงสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด (PK07) รวม 7 สถานี ยังคงปิดให้บริการอยู่ จนกว่าจะติดตั้งระบบรางจ่ายไฟให้แล้วเสร็จ และตรวจสอบให้เรียบร้อยอีกครั้ง สำหรับระยะเวลาที่เปิดทดลองใช้บริการฟรีที่เสียไปจากการปิดให้บริการ 7 สถานีดังกล่าว จะมีการเจรจากับผู้ประกอบการ ให้ขยายระยะเวลาการเปิดทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูทั้งเส้นทางอีกครั้ง เพื่อประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนได้รับเป็นสำคัญ
ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่หาตรวจสาเหตุและประมวลผล สันนิษฐานว่า เกิดจากการรื้อถอนอุปกรณ์ด้านโครงสร้าง จากการดึงเข็มพืดเหล็ก (sheet pile) ของโครงการระบบสาธารณูปโภคบริเวณด้านล่างของโครงการรถไฟฟ้าออก ตามขั้นตอนก่อสร้างเมื่องานแล้วเสร็จ ซึ่งอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้ระดับของรางนำไฟฟ้าไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
ข่าวน่าสนใจ:
- วธ.จัด“ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” น้อง“หมูเด้ง” Thai Cuteness ร่วมสร้างสีสัน
- "รัฐสภา" ร่วมสนับสนุนการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “พระจักราวตาร”
- รมว.ท่องเที่ยว ชวนลอยกระทง "สีสันแห่งสายน้ำฯ" สร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- ทีดีอาร์ไอ จัดเวิร์คชอป “ CONTENT CREATOR WORKSHOP: SYNERGY FOR CLEAN ENERGY”
ส่งผลให้เมื่อมีตัวรับกระแสไฟฟ้า (Collector Shoe) ที่ติดกับตัวรถตรวจความพร้อมของเส้นทาง (รถไฟฟ้าหมายเลข PM40) ซึ่งกำลังเคลื่อนที่ไปกระแทก ส่งผลให้เกิดการขยับตัวของรางนำไฟฟ้า (Conductor Rail) ออกจากจุดยึด แล้วร่วงลงมาด้านล่างบนถนนบางส่วน (ประมาณ 300 เมตร) และส่วนใหญ่ติดค้างอยู่บนโครงสร้าง ระหว่างสถานีแคราย-สถานีกรมชลประทาน ระยะทางรวมประมาณ 4.3 กม.
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีรอยไหม้จากประกายไฟที่เกิดจากการลัดวงจร (Short Circuit) 1 จุด บริเวณคานทางวิ่ง เหนือสถานที่ก่อสร้างโครงการระบบสาธารณูปโภคดังกล่าว (ใกล้ปากซอยติวานนท์ 34)
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องนำมาเป็นบทเรียนที่สำคัญของทุกฝ่าย เมื่อมีการดำเนินการใด ๆ เช่น ก่อสร้าง รื้อถอน ต้องมีการแจ้งและส่งมอบพื้นที่ ควบคุมงานพร้อมกัน ทั้งผู้ประกอบการ กรมการขนส่งทางราง และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ที่ผ่านมา ได้มีการหารือระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชนมาโดยตลอด อีกทั้งมีรถตรวจการคอยตรวจสอบความพร้อมเส้นทาง ก่อนให้บริการในทุก ๆ เช้า เวลา 04.00 น. เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม จะต้องเพิ่มมาตรการตรวจการทำงาน และความเรียบร้อยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัยในอนาคต
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ที่ :
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: