ตำรวจคุมตัวไอ้เดช ฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม ตั้งสี่ข้อหาหนักพร้อมประสานสภาทนายความส่งทนายมาร่วมการสอบสวนเนื่องจากมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโทม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนมร้อยเวรเจ้าของคดี ได้นำตัวนายภานุเดช ไชยปัญญา ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้าย ร.ต.ท. อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ รองสารวัตรปราบปราบ สภ.ธาตุพนม เสียชีวิต ขณะเข้าระงับเหตุ เนื่องจากได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่านายภานุเดช หรือ เดช เกิดอาการคลุ้มคลั่ง เนื่องจากเสพยาบ้าจนหลอน อาละวาดทำลายข้าวของ พร้อมขู่จะทำร้ายเพื่อนบ้าน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา ประมาณ 10.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนาย เดช ผู้ต้องหารายนี้ ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานายเดช 4 ข้อหาหนัก คือ 1.ฆ่าเจ้าพนักงาน 2. ชิงทรัพย์ 3.วิ่งราวทรัพย์ และ 4.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยร.ต.อ.ธีรพงษ์ ท่าโทม ร้อย เวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต ตามระเบียบจะต้องจัดหาทนายความให้กับผู้ต้องหาเข้าร่วมฟังระหว่างการสอบสวนด้วย โดยตนได้ทำหนังสือประสานไปยังสภาทนายความจังหวัดนครพนมให้ส่งทนายอาสามาร่วมรับฟังในการสอบสวนผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจพบสารเสพติด ในปัสสวะของผู้ต้องหา จึงนำตัวอย่างปัสสวะและเจาะเลือดผู้ต้องหา นำไปตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ก็ยืนยันว่า พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาอย่างชัดเจน ส่วนจะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนในที่เกิดเหตุหรือไม่นั้น จะต้องขอประเมินสถานการณ์ดูก่อนว่ามีความจำเป็นหรือไม่ทั้งนี้จะขอหารือกับผู้บังคับบัญชาในเรื่องนี้ก่อนเนื่องจากหลักฐานที่ได้ก็มากเพียงพอแล้ว โดยหลังจากควบคุมตัวผู้ต้องหาได้และนำตัวมาขังแล้ว ยังเกิดอาการคลุ้มคลั่งในห้องขัง จึงต้องให้แพทย์ฉีดยาเพื่อระงับอาการจึงสงบลง
โดยขณะนำตัวนาย เดช ออกจากห้องควบคุม เพื่อนำตัวไปฝากขังนั้น นายเดชมีสีหน้านิ่งเฉยไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าว เมื่อถูกถามว่าวันเกิดเหตุได้เสพยาบ้าหรือไม่ แต่เมื่อถามว่าอยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิตหรือไม่ นายเดช ก็พยักหน้าพร้อมกล่าวขอโทษทันที
