นราธิวาส-ตม.นราฯรวบบังคลาเทศ 8 คนอาศัยช่วงเทศกาลปีใหม่ประทับตรา VISA ปลอมเข้าเมือง
เมื่อเวลา 14.30 น.ของวันที่ 3 ม.ค. 67 ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส สั่งการให้ชุดสืบสวนปราบปรามฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก, เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ส.ทท.3 กก.3 บก.ทท.3 และ กก.6 บก.ปคม. อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก รวมทั้งออกสืบสวนป้องกันปราบปราม ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. คนเข้าเมือง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ออกตรวจพื้นที่ พบบุคคลต่างด้าว จำนวน 8 คน เดินจับกลุ่มอยู่บริเวณริมถนนประชาวิวัฒน์ ซ.3 หน้าโรงแรมพีโฮมสเตย์ ตำบลสุไหงโก-ลก จึงได้แสดงตัวเป็นเพื่อขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวและหนังสือเดินทาง พบว่า บุคคลต่างด้าวเป็นคนสัญชาติบังกลาเทศ หนังสือเดินทางมีรอยตราประทับขาเข้า ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2567 จำนวน 1 คน และอีก 7 คน พบรอยประทับตราขาเข้า เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2567 เมื่อตรวจสอบรอยตราประทับ และแผ่นปะตรวจลงตรา VISA การเข้าเมือง พบว่ามีพิรุธลักษณะผิดไปจากตราประทับ และแผ่นปะตรวจลงตรา VISA ของจริง
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวสัญชาติบังคลาเทศทั้ง 8 คน มาที่ สนง.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ได้นำหนังสือเดินทางตรวจสอบ กับระบบสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไม่ปรากฎข้อมูลการเดินทางเข้าราชอาณาจักรแต่อย่างใด ทั้งหมดให้การยอมรับว่าพวกตนได้เดินทางมาจากประเทศบังกลาเทศ และได้พักอาศัยอยู่ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีชาวบังกลาเทศที่อยู่ประเทศกัมพูชา คอยให้การช่วยเหลือสนับสนุนที่พัก และอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมทั้งเอาหนังสือเดินทางของพวกตนไปดำเนินการทำ VISA และประทับตราขาเข้า และนำมาคืน ก่อนที่จะพาพวกตนลักลอบข้ามพรมแดนทางช่องทางธรรมชาติบริเวณจังหวัดสระแก้ว ไปยังประเทศไทย จากนั้นก็โดยสารรถประจำทางจาก จว.สระแก้ว ไปยัง กรุงเทพฯ และโดยสารรถประจำทางต่อไปยัง อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยได้จ่ายค่าเดินทางพร้อมทำ VISA และประทับตรา เป็นเงินจำนวน 400,000 ถึง 450,000 ทากา คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 127,000 บาท โดยจ่ายแล้วทั้งหมดที่ประเทศบังกลาเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ปลอมหรือใช้รอยตราประทับปลอม, ปลอมหรือใช้เอกสาราชการปลอม ก่อนที่จะส่งบุคคลทั้ง 8 ให้พนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
