ตรัง-ททท.ตรัง ขานรับนโยบายรัฐบาล จับมือผู้ประกอบการผลักดันอาหาร และผลิตภัณฑ์เด่น เพื่อขับเคลื่อนส่งเสริมเป็นซอฟต์พาวเวอร์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ “ครามคูน” ที่สวมใส่แล้วแลดูทันสมัย เก๋ไก๋ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ตามที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ โดยเป็นภารกิจสำคัญ เป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้ให้ประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ภายในระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาล หรือเพิ่มรายได้ให้คนไทย 20 ล้านครัวเรือน ประมาณ 2 แสนบาทต่อปี หรือประมาณ 16,000 บาทต่อเดือน โดยจังหวัดตรัง มีสินค้าพื้นถิ่นจากภูมิปัญญาที่หลากหลาย รวมทั้งอาหารที่เป็นเอกลักษณ์อยู่หลายตัวผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผ้ามัดย้อมครามคูณ ที่นำเอาผ้ามัดย้อมแบบชิโบริของญี่ปุ่น มาปรับผสมผสานกับงานผ้ามัดย้อมแบบไทย ใช้สีธรรมชาติ จากดิน จากต้นคราม ต้นคูน จากใบไม้ ผลไม้ เปลือกไม้ที่หาได้ในท้องถิ่น จึงได้ผลักดันเป็นอีกหนึ่งสินค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัดตรัง
ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง ขานรับนโยบายรัฐบาล ด้วยการจับมือผู้ประกอบกอบการร้านครามคูณ จัดโชว์แบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่สวยงาม รวมไปถึงอาหาร ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย ที่จัดได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ โดย นางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผอ.ททท.สำนักงานตรัง พร้อมด้วย นายอุทิศ สวัสดิ์ รอง ผอ.ททท.สำนักงานตรัง และเจ้าหน้าที่ ททท.สำนักงานตรัง ได้ร่วมแต่งชุดครามคูน และโชว์แบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีทั้งชุด หมวก กระเป๋า ที่สวมใส่แล้วแลดูทันสมัย เก๋ไก๋ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ทั้งนี้ เสื้อผ้าแบรนด์ครามคูน เกิดจากแนวคิดของคุณติ๋ม หรือ นางสาวเสาวนิตย์ คงนคร อายุ 64 ปี อดีตช่างตัดเย็บชาวจังหวัดตรัง ที่ชื่นชอบงานตัดเย็บ และ งานผ้าต่าง ๆ จึงได้ศึกษาการทำผ้ามัดย้อมแบบชิโบริของญี่ปุ่น มาปรับผสมผสานกับงานผ้ามัดย้อมแบบไทย ใช้สีธรรมชาติจากดิน จากต้นครามและต้นคูน จากใบไม้ ผลไม้ เปลือกไม้ที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น เปลือกเงาะ ใบมังคุด เปลือกมังคุด ทุกขั้นตอนปลอดจากสารเคมี แล้วมัดย้อมให้เกิดลวดลายธรรมชาติ เช่น ลายใต้ท้องทะเล ลายดอกไม้ ลายพะยูน ลายเกลียวคลื่น ที่มีความโดดเด่นด้วยดีไซน์ โทนสี รวมทั้งการตัดเย็บด้วยรูปทรงที่ทันสมัย สามารถใส่ได้ทุกโอกาส ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งยังนำผ้ามัดย้อมมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่น เช่น กระเป๋า รองเท้า หมวก และผ้าม่าน เป็นต้น
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
- คอกาแฟแห่เที่ยวงานพังงาคอฟฟี่เจอร์นี่ ซีซั่น 3 ภายใต้รูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Coffee in the Park ในสวนสมเด็จฯพังงา
- รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย…
นางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผอ.ททท.สำนักงานตรัง กล่าวว่า สำหรับจังหวัดตรังนั้น เป็น 1 ใน 55 เมืองรองที่ไม่เป็นรองใคร และมีซอฟต์พาวเวอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่เป็นหนึ่งในภาคใต้เลยทีเดียว ไม่ว่าว่าจะกินแบบ Local food แบบ Local fresh หรือแบบ Local to global ส่วนสายแฟชั่นก็มีผลิตภัณฑ์มากมาย รวมทั้งครามคูน ซึ่งเป็นเทคนิคมัดย้อมจากสิ่งของจากธรรมชาติ ผสมผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ อย่างเทคนิคชิโบริ เพื่อให้มีลวดลายที่สวยงาม ที่โดดเด่น ที่แตกต่าง แต่ไม่ทิ้งคำว่า ตรัง เช่น ลายทะเล ลายพะยูน ลายหญ้าทะเล ลายดอกศรีตรัง จึงใส่แล้วดูดีสวยสง่า ใส่แล้วดีต่อสุขภาพ ใส่แล้วรักษ์โลก จึงสามารถซื้อไปเป็นของฝากให้คนที่คุณรักและครอบครัวได้
นางสาวลดาวัลย์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากครามคูนแล้ว จังหวัดตรังยังมีปาเนลคราฟท์ ด้วยการเอาวัชพืช เอาเตยปาหนัน มาออกแบบดีไซน์ หรือนำผ้าทอนาหมื่นศรี มาทำเป็นรองเท้า กระเป๋า ที่ทันสมัย สวมใส่สบาย ดูมีระดับ ตลอดจนผลิตภัณฑ์แบบ GI ไม่ว่าจะเป็นพริกไทยปะเหลียน ข้าวเบายอดม่วง หรือล่าสุดที่กำลังผลักดันให้ได้รับ GI ก็คือ แตงโมเกาะสุกร ที่บ่งบอกความเป็นตรังได้อย่างน่าสนใจ รวมทั้งการที่จังหวัดตรังยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีอากาศดีที่สุด 1 ใน 5 เมืองของเอเชีย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็น Soft Power ที่สามารถสร้างความสุข สร้างรายได้ และสร้างอัตลักษณ์ของจังหวัดตรัง ให้โดดเด่นแตกต่างจากจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย
ด้าน นางสาวเสาวนิตย์ คงนคร อายุ 64 ปี เจ้าของผลิตภัณฑ์ครามคูน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทางททท.หนุนให้สินค้าชนิดนี้เป็น ซอฟต์พาวเวอร์ ของจังหวัดตรัง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 10 คนแล้ว และยอดขายก็ไม่เคยตกเลย เพราะกว่าจะผลิตออกมาได้แต่ละชิ้น ใช้ขั้นตอนในการทำยุ่งยากมาก ทำให้พวกตนมีกำลังใจที่จะผลิตสินค้าลายสวยๆ เพิ่มมากขึ้น และหลากหลายแบบมากขึ้น ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า หมวก ผ้าชิ้น โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ชิ้นละ 320 บาท ไปจนถึงหลักพันบาทขึ้นไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: