สระแก้ว – สั่งย้าย ผกก.สภ.อรัญฯ!! ผบช.ภาค 2 แถลงชี้แจงคลิปเสียง ตำรวจคลุมถุงดำและล่ามโซ่ ลุงเปี๊ยกให้รับสารภาพ ล่าสุด ถูกส่งไปที่สถานบำบัดฯ ที่ จ.ปทุมธานี พร้อมตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานภายใน 3 วัน ล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เตรียมเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบและติดตามคดีนี้ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (19 ม.ค.67)
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ธนาวุธ จงจิระ ผู้บังคับการกฏหมายและคดี ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เพื่อคิดตามคดีฆ่าป้าบัวผัน ตันสุ หญิงสติไม่ดี ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดย พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณีที่มีภาพคลิปเผยแพร่ออกมาว่า ตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยกและล่ามโซ่ หรือขังในห้องเย็น เพื่อให้ยอมรับสารภาพ ซึ่งจากการตรวจสอบภาพคลิปของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถ่ายไว้ระหว่างสอบสวนจับกุม ยังไม่พบว่า มีการใช้ถุงดำคลุมหัวและล่ามโซ่ตามที่มีผู้นำคลิปเผยแพร่ออกไป รวมทั้งภายในห้องสอบสวน ในวันที่อ้างในคลิปเสียงแล้ว ไม่พบเหตุการณ์ ตามคลิปเสียงแต่อย่างไร ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการย้าย พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ มาปฏิบัติหน้าที่ประจำที่ ศปก.ภ.จว.สระแก้ว จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น ซึ่งจากการได้ข้อเท็จจริงทางคดีที่เกิดขึ้น ทาง ผกก.และตัวตำรวจที่ทำงาน ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า ไม่ทันเหตุการณ์และข้อมูลต่าง ๆ ให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจน จึงให้มาประจำที่จังหวัด แล้วให้ทีมงานของ ภ.จว.สระแก้ว ลงไปตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นว่า มีการบกพร่องในหน้าที่หรือไม่ และระหว่างนี้ก็ให้ พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ไป รรท.ผกก.สภ.อรัญประเทศ ไปก่อน
พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวถึงกรณีมูลนิธิวินวินออกมาเปิดเผยข้อมูลกล่าวหาตำรวจว่า ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยมี พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 เป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตนลงมาตรวจสอบเรื่องนี้เพราะสังคมให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างยิ่ง ซึ่งต้องให้ระยะเวลาคณะทำงานภายใน 3 วัน โดยมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีมาพบและสอบสวนหาข้อเท็จจริง ส่วนกรณีของนายดาบตำรวจนายหนึ่ง ที่มีการเรียกมาสอบสวนนั้น เนื่องจากนายดาบคนนี้เป็นหนึ่งใน จนท.ที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ไปหาข้อเท็จจริงว่า มีใครร่วมกระทำความผิดบ้าง เรามองว่า ลุงเปี๊ยกได้กระทำผิดหรือไม่ ต้องการตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ไม่ได้สอบถามว่า เอาลุงเปี๊ยกมาทำอะไรกับลุงเปี๊ยกบ้าง ซึ่งเบื้องต้นตอนนั้นเราไม่ได้สอบถาม จึงจะเอาเรื่องนี้ไปประกบกัน ตอนนี้กระบวนการก็จะมาตรวจสอบว่า กระบวนการตั้งแต่พาลุงเปี๊ยกมาโรงพัก เป็นผู้กระทำความผิดในคดีนี้หรือไม่ คณะกรรมการกำลังตรวจสอบว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งตามกระบวนการก็ต้องหาคนใกล้ชิดว่า มีสาเหตุโกรธเคืองหรือเปล่า ผู้ตายในสังคมของคนอรัญรู้จักกันดี เพราะฉะนั้นเค้าก็รู้ว่า ลุงเปี๊ยกใกล้ชิดกับผู้ตายที่สุด ก็เลยเชิญมาซักถาม ซึ่งผิดถูกว่าเข้าข่าย พรบ.อุ้มหายหรือไม่ ตำรวจไม่ได้เกี่ยวข้อง หากเป็นความก็ต้องเป็นอำนาจของหน่วยงานยุติธรรม
ผบช.ภาค 2 กล่าวถึงการสอบสวนกรณีคลิปว่า คนนอกจะเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะตนดำเนินการตาม พรบ.ตำรวจ ซึ่งไม่ได้ให้อำนาจคนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว เป็นเรื่องของการดำเนินการทางวินัย ถ้าเกี่ยวข้องกับคดีอาญา ก็ต้องดำเนินการคดีอาญาไป ถ้าผิดทั้งวินัยและอาญา ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ซึ่งตนยืนยันว่า ต่อไปผลการสอบจะไม่มีมวยล้อมต้มคนดูอีก พยานหลักฐานชัดเจน ขณะนี้ได้พูดคุยกันว่าในเรื่องของคดีหลักจะเดินไปทางไหน กรณีของนายเปี๊ยกจะทำอย่างไร เพราะสังคมรอดูอยู่ เพราะการกระทำของกลุ่มเหล่านี้โหดร้ายทารุณ ควรจะต้องเร่งสำนวนนี้ให้จบก่อน แล้วถ้าพิสูจน์ได้ด้วยหลักฐานว่ากลุ่มนี้ทำ ก็ต้องมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายเปี๊ยกด้วย เพราะปัจจุบันเขายังเป็นผู้ต้องหาอยู่ แม้จะมีหมายปล่อยไปแล้ว ซึ่งหลังจากคณะกรรมการของ พล.ต.ต.ฉัตรชัยฯ มีผลออกมาแล้วภายใน 30 วันควบคู่กันไป หากผลออกมาว่า ตำรวจได้ทำจริงตามที่ให้สัมภาษณ์ พนักงานสอบสวนมองว่า เข้าข่ายความผิดทางอาญา พรบ.ทรมาน ต่าง ๆ ก็มีการแจ้งความดำเนินคดีเหมือนกับผู้กระทำผิดทั่ว ๆ ไป โดยผู้ที่มีเสียงอยู่ในคลิปเสียง จะต้องเชิญตัวมาสอบบุคคลแรกเลยว่า คุณเกี่ยวข้องรู้เห็นตรงไหนอย่างไร ซึ่งต้องเริ่มจากคนนี้ก่อนเลยเพราะเป็นคนพูดเปิดประเด็น ที่พูดไปเป็นประจักษ์พยาน มีพยานแวดล้อมตามที่พูดไปหรือพูดด้วยสาเหตุใด
ส่วนของรองสารวัตรฯ ที่เป็นพ่อของเยาวชน วันนั้นพาลูกไปเที่ยวเขาใหญ่ หรือเป็นการพาหนี และในวันเกิดเหตุได้อยู่ตรงนั้นหรือไม่ ซึ่ง ผบช.ภาค 2 กล่าวว่า จากการตรวจสอบ รองสารวัตรพาลูกไปเขาใหญ๋จริง ไปเที่ยว ผู้บังคับบัญชาก็ได้ติดตามว่า ลูกชายได้กระทำผิด ก็พามามอบตัวเลย ซึ่งในวันที่พาลุงเปี๊ยกไปชี้จุดไม่ได้อยู่ด้วย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี ไม่ได้พาหนี พอตำรวจโทรตามก็พาตัวมอบอีกวัน ในส่วนของกรณีลุงเปี๊ยกนั้น ซึ่งตอนนี้อยู่ที่สถานบำบัดฯ ที่ จ.ปทุมธานี ตอนนี้คณะกรรมการเริ่มสอบปากแรกคือ เจ้าของคลิปเสียง ส่วนลุงเปี๊ยก ก็ต้องสอบว่า ถูกกระทำตามคลิปเสียงหรือไม่ เพราะเป็นประจักษ์พยาน
“ดังนั้น เพื่อความยุติธรรมของทั้งสองฝั่ง กับสังคมและพี่น้องประชาชน เราก็ตั้งคณะกรรมการจากส่วนกลางมาเพื่อสอบสวนเรื่องนี้ หากสื่อมวลชนพบว่า มีตำรวจไปสั่งการผู้ประกอบการไม่ให้ ให้คลิปกับสื่อมวลชนก็ส่งมาได้เลย ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนและแจ้งความคดีข่มขืนเด็กอายุ 12 ปี และคดีอนาจาร คดีทำร้ายร่างกายและคดีอื่น ๆ เด็กกลุ่มนี้ไม่ได้ไปทั้ง 5 คน บางเคทไปคนเดียว บางเคทไม่ได้ไป เหตุเกิดในปี 2566 ผู้ต้องหาได้มาแจ้งความ ก็ได้ดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐานไป ส่วนการข่มขู่ขอให้มาพบเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองพยานอยู่ ถ้าไม่ได้รับความปลอดภัยเราอาจจะจัดที่พักให้ มีตำรวจคอยดูแล ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากไม่ไว้ใจสถานีตำรวจอรัญประเทศ ก็มาพบผู้การฯ สระแก้ว หรือตนเอง สามารถแจ้งข้อมูลได้ตลอด ส่วนแนวทางในการกวาดล้างแก๊งเยาวชนต่าง ๆ ขณะนี้เตรียมแผนเพื่อดำเนินการปิดล้อม ตรวจค้น ดำเนินการตามกฎหมาย และบังคับใช้ พรบ.คุ้มครองเด็ก เพราะกลุ่มนี้มีประมาณ 20 คน ไม่ใช่ 4-5 คน” ผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 2 กล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการให้สัมภาษณ์แถลงข่าวของ ผบช.ภาค 2 ได้มี ด.ต.นายหนึ่ง ชื่อเล่นว่า ดาบเสก ซึ่งเดินทางมาให้เจ้าหน้าที่สอบสวน กรณีที่มีภาพคลิปเผยแพร่ออกมาว่า ตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยก และล่ามโซ่ เพื่อให้ลุงเปี๊ยกยอมรับสารภาพนั้น โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มีคนสั่งให้ทำหรือไม่ ซึ่ง ด.ต.นายนั้น ไม่ยอมปริปากตอบคำถามแม้แต่คำเดียว ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของตำรวจแผนกสืบสวน สภ.อรัญประเทศ กลับไป สำหรับกรณีดังกล่าว ปัจจุบันมีการสั่งย้ายตำรวจไปแล้วทั้งหมด 4 นาย ประกอบด้วย รองสารวัตรสืบ สภ.อรัญประเทศ พ่อของ 1 ใน 5 เยาวชน ,เจ้าหน้าที่ตำรวจยศดาบตำรวจ สังกัด ตม.สระแก้ว พ่อของ 1 ใน 5 เยาวชน ,รองผู้กำกับสืบสวน สภ.อรัญประเทศ และ ผกก.สภ.อรัญประเทศ หลังมีการนำคลิปเสียงออกมาเผยทางสื่อโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ได้รับแจ้งว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบและติดตามคดีนี้ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (19 ม.ค.67) ด้วย
——————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทีมข่าวสระแก้ว
