X

ผู้การฯ สระแก้ว แถลงคืบหน้าคดี”ป้าบัวผัน” ร่วมกับ”กัน จอมพลัง”พบมีคดีเกี่ยวข้อง 11 คดี

สระแก้ว – ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดแถลงข่าวความคืบหน้า คดีฆาตกรรมป้าบัวผันฯ พบมีคดีเกี่ยวข้อง 11 คดี ยืนยัน ไม่มีการช่วยคดีที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยวันนี้ มีการส่งฟ้องต่ออัยการเพื่อดำเนินคดีกับ 5 ผู้ปกครองเด็กที่กระทำผิดแล้ว

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 ม.ค.67 ผู้สื่่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้า สภ.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ร่วมกับ พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วย รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว รักษาราชการแทน ผกก.สภ.อรัญประเทศ โดยมี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เจ้าของเพจชื่อดัง เดินทางมาร่วมแถลงข่าว ความคืบหน้าคดีฆาตกรรม น.ส.บัวผัน ตันสุ หญิงสติไม่ค่อยดี อายุ 47 ปี นำศพทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุที่แท้จริงเป็นกลุ่มเยาวชน 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัว บังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพด้วย โดย พล.ต.ต.ออมสิณ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุและพบศพป้ากบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กและเยาวชน จำนวน 5 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว และได้มีการขยายผล พบว่า กลุ่มเด็กดังกล่าวมีการกระทำความผิดเพิ่มเติม ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว จึงขอแแถลงผลความคืบหน้าคดีที่ผ่านมา โดยจะให้ พ.ต.อ.เอกอนันต์ เป็นผู้ให้รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับคคี ซึ่งมีคดีรวมกันทั้งหมด 11 คดี


พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ซึ่งคุมงานสอบสวน กล่าวว่า คดีฆาตกรรมป้ากบฯ ซึ่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาาเป็นเด็กและเยาวชน 5 คน นำตัวมาดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลการขยายผลไปยังกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมีทั้งหมด 11 คดี ประกอบด้วย คดีแรก เป็นคดีร่วมกันฆ่าป้ากบ ซึ่งในคดีนี้มีนายโก๊ะกับพวก รวม 5 คน เป็นผู้ต้องหา ตอนนี้ได้สอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือเฉพาะผลตรวจดีเอ็นเอ และผลตรวจข้อมูลทางโทรศัพท์ และรายงานสืบเสาะของสถานพินิจฯเท่านั้น หลังจากนั้นก็สามารถสรุปสำนวนคดีส่งอัยการได้ ส่วนคดีที่ 2,3 และ 4 เป็นคดีเกี่ยวกับเพศ คดีแรก ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุ 12 ปี มีนายโก๊ะกับพวก รวม 4 คน ,อีกคดี กระทำชำเราเด็ก มีนายโก๊ะ เป็นผู้ต้องหา, อีก 1 คดี กระทำชำเราเด็ก มีนายโก๊ะเป็นผู้ต้องหา ผู้เสียหายเป็นชาวกัมพูชา ซึ่งคดีเกี่ยวกับเพศทั้ง 3 คดี ตอนนี้สอบสวนพยานเรียบร้อยหมดแล้ว คงเหลือ การดำเนินการแจ้งข้อหาเด็กและสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ ซึ่งตอนนี้เด็กทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก จ.จันทบุรีและระยอง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างทำเรื่องขอเบิกตัวไปที่ศาลในวันที่ 25 ม.ค.นี้ จากนั้นก็จะสอบสวนปากคำ แจ้งข้อหาต่อหน้าสหวิชาชีพ และรอผลรายงานประวัติก็จะครบถ้วนทั้ง 3 คดี


พ.ต.อ.เอกอนันต์ กล่าวอีกว่า คดีที่ 5 ,6 ,7 เป็นความผิดต่อการทำร้ายร่างกายมี 3 คดี คดีแรก นายพลพันธ์ อายุ 36 ปี เป็นผู้เสียหาย คดีนี้ตัวเองจำใบหน้าผู้ต้องหาที่มากระทำไม่ได้ แต่มีคลิป ตอนนี้อยู่ระหว่างฝ่ายสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานว่า เป็นใครอย่างไร ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป ,อีกคดี เป็นคดีทำร้ายและเผารถ มีผู้ต้องหา 7 คน เป็นเด็ก 4 คน เป็นผู้ใหญ่ 3 คน ตรงนี้เรารู้ชื่อรู้ตัวทั้งหมดแล้ว ซึ่งชื่อทั้ง 7 คน ไม่ซ้ำซ้อนกับคดีของนายโก๊ะ อยู่ระหว่างเอาตัวมาดำเนินคดี ,อีกคดี เป็นชาวกัมพูชามาแจ้งความว่า ถูกวัยรุ่นปาสิ่งของเข้าบ้านได้รับความเสียหาย เรื่องนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด อยู่ระหว่างสืบสวนของฝ่ายสืบสวน ,คดีที่ 8 เป็นคดีทำร้ายร่างกาย ใช้มีดฟันจนถึงแก่ความตายที่ “กัน จอมพลัง” เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งมีเด็ก 3 คน เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อเดือน ธ.ค.65 ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นไม่ตรงกับกลุ่มของนายโก๊ะ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ซึ่งตรงนี้ ยังต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ องค์รักษ์ มาประกอบอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งผลตรวจของแพทย์เป็นอย่างไรก็สามารถนำมาแจ้งข้อหาเพิ่มได้อีก


สำหรับกรณีกลุ่มวัยรุ่น มีการใช้ประทัดลูกบอล ใส่หินห่อด้วยกระดาษ คดีนี้ ผู้ต้องหาเป็นเด็ก 2 คน ในส่วนของความผิดฐาน ข่มขู่ให้ตกใจกลัว คดีนี้เราปรับไปแล้ว แต่ส่วนที่เป็นวัตถุของกลาง ตอนนี้นำส่ง พฐ.เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ ว่าเข้าข่ายวัตถุระเบิด พรบ.อาวุธปืนหรือไม่ หากเป็นวัตถุระเบิด ก็จะสามารถตัวมาแจ้งข้อหาเพิ่มได้อีก ตาม พรบ.อาวุธปืนต่อไป เป็นคดีที่ 9 , สำหรับคดีที่ 10 คดีที่ เด็กและเยาวชนจำนวน 7 คน เด็ก 6 ผู้ใหญ่ 1 คน ทำร้ายร่างกายเด็ก เหตุเกิดใน สภ.วัฒนนานคร ตอนนี้รู้ตัวผู้ต้องหาผู้กระทำผิดหมดแล้ว ขณะได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา สอบสวนปากคำและแจ้งข้อหา โดยนัดวันที่ 25 ม.ค.ที่จะถึงนี้ แล้ว  ,และคดีที่ 11 ป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ และเป็นคดีที่ต้องดำเนินคดีกับตำรวจ คือนายดาบตำรวจภิเศก พวงมาลาประดับ เราดำเนินคดีในความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157 ซึ่งเมื่อวานนี้ได้ดำเนินการสอบสวนทั้งหมดแล้ว  อำนาจในการชี้มูลอยู่ที่ ปปช.จังหวัด ซึ่งเราได้ทำหนังสือแจ้งไปทาง ปปช.เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ นอกจากนั้น ยังมีคดีที่เกี่ยวข้อง พ.ร.บ.ป้องกันและกระทำการทรมาน ซึ่งได้ทำหนังสือรายงานไปยังพนักงานอัยการเพื่อกำชับดูแลต่อไป


ส่วนคดีที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีกับผู้ปกครองเด็ก ทั้ง 5 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งเราได้ดำเนินการไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งตำรวจจะเนินคดีกับผู้ปกครองทั้ง 5 คน ซึ่งเราได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวน พร้อมทั้งส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนในวันนี้ เพื่อให้กับทางอัยการ เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่


พล.ต.ต.ออมสิณฯ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้ง 11 คดี ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ก็ได้ระดมกำลังออกกวดขัน กวาดล้างจับกุมสิ่งของผิดกฎหมาย ผู้กระทำความผิดในช่วง 3-4 วัน ที่ผ่านมาทาง ผบช.ภ.2 ได้ส่งกำลังคอมมานโดและ นปพ.ภ.2 ออกมาช่วยตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ในการดำเนินการดังนี้  โดย พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวว่า 4 วันที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มารักษาการที่นี่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การนำของ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 และ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้ร่วมกันปฏิบัติการเมืองอรัญปลอดภัย คนดีอยู่สบาย คนร้ายอยู่ร้อนนอนทุกข์ ได้สั่งการระดมกวาดล้างแก๊งเยาวชนต่าง ๆ ก่อเหตุป่วนบ้านป่วนเมือง เพื่อให้ลดลงภายใน 1 เดือน หรือทันทีทันใด ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยได้ดำเนินออกตรวจ กวาดล้าง ทำประวัติ โดยเฉพาะเยาวชนอายุ 10-15 ปีที่ออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่ม โดยไม่มีผู้ปกครอง กลุ่มนี้จะต้องเชิญตัวหรือนำมาทำประวัติที่ สภ.และเชิญผู้ปกครองมาทำทัณฑ์บนและตรวจสอบความผิดอื่น ๆ รวมทั้งทำมาตรการเชิงรุกในการออกพบปะชุมชน ในการให้ความรู้กันในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้การป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด และอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ด้วย


พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าวอีกว่า ช่วง 4 วันที่ผ่านมา ได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืน .357 ได้ 1 กระบอก ,อาวุธปืนยาวอัดลม 1 กระบอก ,ปืนบีบีกัน ,กระสุนปืน ,จับยาเสพติด ผู้ต้องหา 7 คน เมาสุรา 1 ราย ,ยึดรถจักรยานยนต์ 37 คัน ทำทัณฑ์บนผู้ปกครอง 21 คน และช่วยเหลือกรณีบุคคลเร่ร่อนนำส่งไปศูนย์พักพิง 1 ราย จาก อ.บุญฑริก จ.อุบลราชธานี  และที่สำคัญอีกอย่างคือ เด็กชอบไปซื้อดอกไม้เพลิง ระเบิดปิงปองมาประดิษฐ์เป็นระเบิดเอง ซึ่งได้มีการขยายผลจับกุมต่อเนื่อง ให้เต็มที่ ตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน โดย ผบช.ภ.2 บอกว่า ขาดเหลืออะไรขอให้แจ้งมา เพื่อให้เมืองในสระแก้ว ปลอดภัย เรียกความเชื่อมั่น ความศรัทธาจากพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด แต่ทั้่งนี้ทั้งนั้นก็ฝากพี่น้องชาว จ.สระแก้ว ด้วยว่า ขอให้ตัวผู้ปกครองดูแลซึ่งกันและกัน ขอให้ดูแลบุตรหลานขออย่าให้ออกมาในเวลาที่ไม่เหมาะสม มาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ผู้ปกครองเดือดร้อนด้วย


ทางด้าน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” กล่าวว่า ต้องการให้มีการดำเนินคดีกับพ่อแม่ของเยาวชนที่สร้างความเดือดร้อนด้วย ซึ่งตำรวจยืนยันว่า ดำเนินการตามกฎหมายทุกราย รวมทั้งผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานออกมากระทำความผิด ก็จะถูกดำเนินคดีด้วย สำหรับกรณีของจำหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่ถูกตั้งกรรมการสอบ และกรณีของลุงเปี๊ยก หลายท่านมีคำถามว่า จะช่วยกันหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.ต.ออมสิณ ชี้แจงว่า เราได้ส่งสำนวนให้ ปปช.เป็นผู้ชี้มูล เนื่องจากผู้กระทำเป็นข้าราชการ ในส่วนของกรณีที่คดี พรบ.ทรมาน ผู้เสียหาย คือลุงเปี๊ยกยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งแพทย์ยังไม่อนุญาตให้เข้าสอบปากคำ ซึ่งลุงเปี๊ยกอยู่กับดาบภิเศก เพียง 2 คนในห้อง เราต้องไปสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งได้ทำหนังสือถึงอัยการให้มาร่วมสอบปากคำอีกครั้ง คาดว่า อาทิตย์นี้แพทย์จะอนุญาตให้เข้าสอบปากคำลุงเปี๊ยกได้ ซึ่งตนยืนยันว่า คดีทั้งหลายไม่ใช่ว่า ข้าราชการตำรวจเราทำฝ่ายเดียว คดีเด็กมีสหวิชาชีพ ข้าราชการตำรวจทำผิด ก็มีคณะกรรมการ ปปช.ดูแลอยู่ ตนสามารถให้ความมั่นใจว่า ไม่มีใครสามารถรอดพ้นการกระทำผิดไปได้

———————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"