สระแก้ว – ศาลคดีทุจริตภาค 2 สั่งจำคุก นายชาญ โต๊ะสิงห์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สะรแก้ว กับพวก 12 เดือน ปรับ คนละ 21,000 บาท
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสระแก้วว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา สำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดสระแก้ว ได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ให้จำคุก นายชาญ โต๊ะสิงห์ นายกองค์การบริหานส่วนตำบล (อบต.) คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พร้อมพวก รวม 8 คน คนละ 12 เดือน ปรับคนละ 21,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา เหตุไม่เคยต้องโทษมาก่อน และได้ชดใช้ค่าเสียหายแล้ว ราชการไม่เสียหาย ทั้งนี้ ปปช.ประจำจังหวัดสระแก้ว ได้อ้างอิง แหล่งข่าวมาจากสำนักข่าวอิศรา ซึ่งรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดี กล่าวหา นายชาญ โต๊ะสิงห์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองหินปูน อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว กับพวก 8 ราย คือ นายสายชล กลัดบุปผา นายประดิษฐ์ ยศศรี นายจรูญศักดิ์ วงษ์ลี นายเสกสันต์ ศรีบุบผา นางสาวกฤษณา ศรีจันทร์ นายบัญญัติ หลำเจริญ นายพรหมพิราม โพธิกูล และนายสุวรรณ์ พรมณี ควบคุมงานและตรวจรับการจ้าง ทั้งที่งานยังไม่แล้วเสร็จในโครงการก่อสร้าง/ซ่อมแซม/ปรับปรุงต่อเติม สถานีอนามัยคลองหินปูน และโครงการก่อสร้าง/ซ่อมแซม/ปรับปรุง/ต่อเติม สถานีอนามัยคลองตาสูตร เมื่อปี 2565
สำหรับกรณีดังกล่าว ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 162 (1) (4) มาตรา 86 มาตรา 91 และตาม พ.ร.บ ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2565 ล่าสุด ศาลลงโทษจำคุก นายชาญ โต๊ะสิงห์ จำเลยที่ 1 นายสายชล กลัดบุปผา จำเลยที่ 2 นายประดิษฐ์ ยศศรี จำเลยที่ 3 นายจรูญศักดิ์ วงษ์ลี จำเลยที่ 4 นายเสกสันต์ ศรีบุบผา จำเลยที่ 5 นางสาวกฤษณา ศรีจันทร์ จำเลยที่ 6 นายบัญญัติ หลำเจริญ จำเลยที่ 7 นายพรหมพิราม โพธิกูล จำเลยที่ 8 คนละ 12 เดือน และปรับคนละ 21,000 บาท และ จำคุก นายสุวรรณ์ พรมณี จำเลยที่ 9 มีกำหนด 8 เดือน และปรับ 14,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งเก้า เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน มูลค่างานที่ยังไม่แล้วเสร็จทั้งสองโครงการตามฟ้องเป็นเงินจำนวนไม่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าค่าจ้างแต่ละโครงการตามฟ้อง มีการวางเงินชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย เท่ากับจำนวนค่าของงานที่ยังไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ยังปรากฏตามหนังสือของผู้เสียหาย ซึ่งแจ้งต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า การกระทำของจำเลยทั้งเก้า ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย เนื่องจากยังไม่มีการเบิกจ่ายเงิน และมีการเรียกค่าปรับจากผู้รับจ้างในภายหลังแล้ว จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยทั้งเก้ากลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจำเลยทั้งเก้า ให้รอลงการโทษไว้ มีกำหนดคนละ 2 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 56 หากจำเลยทั้งเก้า ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ.มาตรา 29, 30
ข่าวน่าสนใจ:
————————-
ข่าวโดย/สมยศ สินธุพันธุ์ ทีมข่าวสระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: