ฉะเชิงเทรา – ศพในบ้านร้าง นอนเฝ้าไร่มานานนับเดือนไม่มีใครผ่านมาพบเห็น กระทั่งชาวสวนผ่านเข้ามาเจอกลายเป็นซากแห้งกรัง แจ้ง จนท.ตรวจสอบ เบื้องต้นไร้วี่แววคนรู้จัก หลังการชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายตามร่างกาย ก่อนเตรียมนำศพส่งผ่าพิสูจน์ทางนิติเวชอีกครั้ง
วันที่ 28 ม.ค.67 เวลา 17.50 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ต.พิพัฒน์ ดำรงสุกิจ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุพบศพชายนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านร้างกลางไร่มะละกอสลับสวนยางพารา ที่หมู่บ้านสระไม้แดง พื้นที่ ม.5 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านที่ปลูกสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเสาเหล็กทรงกลมลักษณะเป็นโรงชั้นเดียว ขนาดกว้างประมาณ 5 เมตรยาวประมาณ 9 เมตร คล้ายกับกระท่อมสำหรับนอนเฝ้าไร่สภาพชำรุดทรุดโทรม ผนังมีร่องรอยของการถูกทุบทำลาย หลังคาลักษณะเป็นกระเบื้องแผ่นใสแตกพังไปเกือบหมดทั้งหลัง ภายในมีสิ่งของแตกหักล้มระเกะระกะ โดยมีร่างของผู้เสียชีวิตสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ
นอนอยู่ในลักษณะท่าล้มนอนหงายจากพื้นต่างระดับสูงประมาณ 45 ซม.ภายในตัวบ้าน แขนซ้ายเหยียดตรงไปด้านข้าง แขนขวาอยู่ในแนวระนาบใกล้ลำตัวปลายมืองอแตะเสาเหล็กกลางบ้านไว้ อยู่ภายในห้องช่วงเสาที่ 1 จากทั้งหมด 3 ล็อก หลังการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นในที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์เวรจาก รพ.สนามชัยเขต ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย และคาดว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุประมาณ 40-50 ปี เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1-2 เดือน จนผิวหนังตามร่างกายแห้งกรังติดกับโครงกระดูก
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ไม่มีใครทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครมาจากไหน และไม่มีใครรู้จัก หรือมีคนในหมู่บ้านหรือคนงานหายไป โดยสถานที่พบศพเป็นพื้นที่อยู่ห่างไกลจากชุมชน โดยเป็นสวนมะละกอ และสวนยางพาราของชาวบ้านบนแปลงที่ดิน สปก. จึงไม่มีใครผ่านมาพบเห็นเป็นเวลานาน จนมีชาวบ้านมาทำไร่ไถเกลี่ยดินเพื่อเพาะปลูกผ่านมาพบ และแจ้งมายัง จนท.ตำรวจ ให้ทราบดังกล่าว โดยจะส่งศพไปชันสูตรทางนิติเวชอีกครั้งยัง รพ.ตำรวจ พ.ต.ต.พิพัฒน์ กล่าว
ขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านบางรายได้ตั้งข้อสงสัยว่า ศพของผู้เสียชีวิตที่ถูกพบในพื้นที่วันนี้ อาจจะถูกทำร้ายให้เสียชีวิตด้วยวิธีการที่อาจทำโดยไม่ให้เกิดร่องรอยบาดแผลที่สามารถจะสังเกตเห็นได้ง่าย ก่อนที่จะนำศพมาทิ้งไว้ยังในบ้านร้างหลังนี้ ซึ่งเป็นสถานที่เปลี่ยวและอยู่ห่างไกลจากผู้คนก็อาจเป็นได้ เนื่องจากปกติจะไม่มีบุคคลภายนอกหมู่บ้านเดินทางเข้ามาในพื้นที่บ่อยนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ตามไร่ตามสวนของชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลจากเส้นทางการสัญจรสายหลักของคนทั่วไป
