‘ธนาธร’ ย้ำว่าพรรคอนาคตใหม่ มีนโยบายที่มองไกลการแก้ไขปัญหาได้ไกลกว่า เพราะนโยบายของพรรคฯ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง แต่เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งหมดพร้อมกัน
(16 ธ.ค. 61) พรรคอนาคตใหม่ แถลงนโยบาย “เปิดวิสัยทัศน์ เปลี่ยนอนาคต” ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นการแถลงเปิดตัวนโยบายของพรรคอย่างเป็นทางการ 12 นโยบาย ที่จะเปลี่ยนอนาคต สู่สังคมที่คนเท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิด 3 นโยบายฐานราก โดยการ “ยุติระบบราชการรวมศูนย์ กระจายอำนาจ กระจายคน กระจายงบ” , “ไทยเท่าเทียม สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร” และ “ปฏิวัติการศึกษา ลงทุนให้ถูกจุด ลดความเหลื่อมล้ำ”
ด้าน รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคฯ ระบุว่า การบริหารท้องถิ่นในอดีตเริ่มมีการกระจายอำนัจตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2540 แต่หลังจากการรัฐประหารหลายครั้งที่ผ่านมา ทำให้การกระจายอำนายลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งในปัจจุบันถูก คสช. ออกมาตรการไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีโอกาสเลือกผู้บริหารส่วนท้องถิ่นของตนเอง แต่กลับให้ส่วนกลางเป็นผู้เลือก รวมถึง การประเมินว่าบริหารสำเร็จหรือไม่ ก็ให้ส่วนกลางเป็นผู้ตัดสิน พร้อมมองว่าหาก พรรคฯ เขาไปเป็นรัฐบาบ จะบรรจุการให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีการเลือกผู้บริหารในพื้นมี่ตัวเอง และมองว่าในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีอุปสรรค์ต่อประชาชนในพื้นที่องค์กรปกครองแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพฯ และ พัทยา คือ ผู้บริหารของเขตนั้นๆไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งก็ได้
พรรคอนาคตใหม่ตั้งเป้าว่าจะแบบสัดส่วนรายได้ของท้องถิ่น จากเดิม ส่วนกลางร้อยละ 70 และแบ่งให้ท้องถิ่นร้อยละ 30 ซึ่งพรรคฯ ตั้งใจจะเปลี่ยนให้เป็นในอัตรา 50:50 นั่นหมายความว่า เงินจากท้องถิ่นจะสามารถนำรายได้ที่เก็บได้มาพัฒนาพื้นที่ของตัวเอง
“ปัจจุบันมีหนังสือเวียนและเอกสารต่างๆ ที่อนุญาตให้นายอำเภอและผู้ว่าฯ ยับยั้งโครงการของท้องถิ่นได้ เราจะยกเลิกสิ่งเหล่านี้เสีย นอกจากจะมอบความอิษระให้กับส่วนท้องถิ่นแล้วก็ต้องมีการตรวจสอบโดยประชาชน”
ด้านคุณวรรณวิภา ไม้สน เปิดนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า แบบครบวงจร งบประมาณ 650,000 บาท เพิ่มจากเดิม 370,000 บาท โดยการลดงบกลาโหมฯ , ขึ้นภาษีที่ดิน , สลากกินแบ่งรัฐบาล และส่วนอื่นๆ โดยไม่ต้องกู้เงินจากต่างประเทศ โดยการเพิ่มสิทธิ์ ลาคลอด 180 วัน , เงินเลี้ยงดูบุตร , เงินสนับสนุนเยาวชน , เพิ่มเบี้ยคนชรา และ เพิ่มงบบัตรทองเป็น 4,000 บาท/คน
สำหรับ กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นำเสนอนโยบาย “ปฏิวัติการศึกษา ลงทุนให้ถูกจุด ลดความเหลื่อมล้ำ” ด้วยเมกะโปรเจกต์ ลดความเลื่อมล้ำทางการศึกษา 3 ปี 1 แสนล้านบาท ด้วยการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก , ยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้องสมุดและสื่อการเรียนการสอน รวมถึงพัฒนาโรงเรียนอาชีวะ โดยงบประมาณมาจาก การล้างระบบของกระทรวงศึกษา โดยการนำเงินไปมอบให้กำโรงเรียนที่ขาดแคลนก่อน และยุบโครงสร้างที่ซ้ำซ้อน ลดการท่องจำ
“ถ้าเราทำให้เด็กท้องอิ่มและเท่าเทียมกันไม่ได้ เราคงจะพูดเรื่องความเท่าเทียมทางการศึกษาไม่ได้”
ส่วนหนึ่งของนโยบายของพรรคฯ คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเลือกได้ว่า ภาษีที่ตนเองจ่าย จะนำไปใช้ในส่วนไหน เช่น กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะมีหนึ่งโครงการที่ตั้งให้ประชาชนเลือกว่าจะนำเงินภาษีจองตนมาลงในโครงการนั้นหรือไม่ รวมถึงเปิดโครงการต่างๆให้เป็นข้อมูลรัฐเปิดเผย และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ยกเลิกการฝึก รด.
ช่วงท้ายของการแถลงนโยบาย รศ.ดร.ปิยบุตร เลขาธิการพรรคฯ พูดถึงการ “ปักธงประชาธิปไตย ล้างมรดกรัฐประหาร สร้างการเมืองแบบใหม่ เจ้านายคือประชาชน” ตั้งคำถามถึงประชาชน ว่าอยู่ตรงไหนขณะเกิดรัฐประหาร ? ทำไมประธิปไตยประชาชนถึงไม่มีสิทธิ์สูงสุด ? โดยเลขาธิการพรรค ระบุว่า วงจรอุบาทว์ของการเมืองไทยที่แท้จริงคือ เมื่อเลือกตั้งแล้ว พอเวลาผ่านไปชนชั้นนำเสียอำนาจในการควบคุม จึงฉีกรัฐธรรมนูญ และสร้างกฏใหม่มาควบคุมประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นพรรคฯ จึงต้องการลบล้างมรดกที่การรัฐประหารทิ้งไว้ และเตรียมยกเลิกประกาศ คสช. บางฉบับที่เอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่มหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมมองว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาลเลือกตั้งที่ไม่ปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว
“รัฐธรรมนูญจะมีคุณค่าไม่ใช่เพราะเป็นกฏหมายสูงสุด แต่ต้องเป็นกฏหมายที่ประชาชนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง”
อย่างไรก็ตามพรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 อย่างแน่นอน โดยการทำประชามติกับประชาชนถึง 2 ครั้ง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกกระบวนการ ทั้งการเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกทีมแก้ไขรัฐธรรมนูญและหลังจากแก้ไขแล้วก็จะให้ประชาชนได้ออกความเห็นอีกครั้งหนึ่ง สำหรับกฏอัยการศึกจะทำการแก้ไขให้รัฐบาลเป็นผู้ประกาศได้ 7 วัน และหลังจากนั้นต้องมีส่วนร่วมจากหลายฝ่ายและมีการตรวจสอบได้
“ประเทศที่มีอารยะแล้ว ไม่มีคนติดคุกเพราะพูดและเขียน” – รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่
พรรคอนาคตตั้งเป้าให้การรัฐประหารเป็นเพียงประวัติศาสตร์ พร้อมแก้ไขให้ทหารชั้นผู้น้อย มีสิทธิ์ปฏิเสธคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่มีคำสั่งให้ไปทำการใดๆที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ และจะแก้ไขให้ประชาชนทุกคนเป็นผู้เสียหารให้การถูกรัฐประหารและศาลจะต้องพิจารณาภายใน 24 ชั่วโมง รวมถึงแก้ไขให้รัฐประหารปี 57 เป็นโมฆะเพื่อดำเนินทางกฏหมายกับผู้ทำรัฐประหารโดยไม่มีอายุความและให้ประชาชนต่อต้านการรัฐประหารได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: