ชัยภูมิ – ในพื้นที่ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทำค่า PM2.5 พุ่งสูงกว่า 42.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือค่า AGI เท่ากับ 152 เริ่มมีผลกระทบเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว วอนทุกฝ่ายเร่งตระหนัก!!
( 31 ม.ค.67 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ มีรายงานล่าสุดสถานการณ์เกิดไฟป่าในพื้นที่ในขณะนี้ เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาต่อเนื่องต้นแต่ต้นปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา ที่ถึงแม้ว่าเริ่มต้นปีนี้จะพบน้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมา แต่ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าตามพื้นที่ต่าง ๆ เขตรอยต่อมากกว่า 9 อำเภอ ทั้งในเขต อ.เมืองชัยภูมิ,ภูเขียว ,บ้านแท่น ,เกษตรสมบูรณ์,หนองบัวแดง,หนองบัวระเหว,ซับใหญ่,เทพสถิต และภักดีชุมพล ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟป่าเกิดขึ้นในแต่ละวันถี่บ่อยครั้งมากขึ้น
ซึ่งขณะนี้ต้องจัดระดมชุดรถดับเพลิง เจ้าหน้าที่ช่วยกันออกดับไฟป่ากันในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ที่จะออกไล่ตามระงับเหตุช่วยกันดับไฟป่าได้ทันในหลายพื้นที่ได้ในขณะนี้ได้
รวมทั้งยังพบว่ามีเกษตรกรลักลอบเผาเศษวัชพืช ในไร่นา และไร่อ้อย ยังเป็นปัญหามาต่อเนื่อง ส่งผลกระทบตามมา พบว่าในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ล่าสุดมีคุณภาพอากาศในพื้นที่มีค่า PM2.5 สูงขึ้นต่อเนื่องทุกพื้นที่ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 42.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือค่า AGI เท่ากับ 152
ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงสีส้ม ต้องเฝ้าระวังเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายมนุษย์ และยังพบว่าขณะนี้อยู่ในช่วงหน้าแล้ง มีการลักลอบเผาป่าทำให้เกิดไฟไหม้ป่า ที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่แต่ละวันได้รับความเสียมากขึ้น ส่งผลกระทบทำให้สภาพอากาศท้องฟ้าทั่วไปในจังหวัดชัยภูมิ ตามเส้นทางสายหลักที่ผ่าน จ.ชัยภูมิ ประตูสู่ภาคอีสาน(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)ในหลายช่องทางผ่านของถนนสายทางหลวงหมายเลข 201 ชัยภูมิ – สีคิ้ว เริ่มถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาขึ้นตามมาอีกเป็นจำนวนมากในขณะนี้ด้วย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอฝากให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงต้นเหตุปัญหาการเผาป่า พื้นที่การเกษตรให้ลดน้อยลงด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันระดม จนท.นำรถน้ำไปช่วยกันดับไฟไหม้ป่าหญ้าข้างทาง ยาวไปตลอดทั้งสายกันต่อเนื่อง จนเกิดหมอกควันกระจายไปทั่ว เจ้าหน้าที่รถน้ำต้องออกเร่งระดมกำลังช่วยกันสกัดไฟป่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่มีลมกรรโชกแรง และทำให้ไฟลุกลามเข้าไปในป่าด้านในป่าลึกเข้าไปต่อเนื่องขยายวงกว้างสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมากมาต่อเนื่อง
ซึ่งทางหน่วยงานเกี่ยวข้องทางจังหวัด อยากฝากย้ำเตือนสำหรับคนที่ลอบเผาป่าจะมีความผิดที่บัญญัติไว้โดยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2584 มาตรา 54 และต้องระวางโทษตามมาตรา 72 ตรี จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีผู้ใดเผาป่าเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท ที่อยากให้ทุกฝ่ายเร่งตระหนักช่วยกันแก้ปัญหาค่าPM 2.5 ที่เริ่มจ่อวิกฤตสร้างผลกระทบโดยรวมกับคนในพื้นที่ตามมาอีกเป็นจำนวนมากได้ในปีนี้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: