นครพนม : ร้องนายก อบจ.ตุ๋นเปื่อยหลอกลงทุนสูญเงิน 6.5ล้าน ไร้โครงการปล่อยพันธุ์ปลาและโคมไฟโซล่าเซลล์
วันที่ 31 ม.ค.67 เวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อำเภอนาแกหลังได้รับการร้องทุกข์ จากสองสามีภรรยา คือนายภพพล ประเสริฐสังข์ หรือแบงค์ และนางสาวณัชชา มาลาศรี หรือแม็กกี้ อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 9 ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งได้รับความเดือดร้อน โดน นายก อบจ.สกลนคร หลอกลงทุนในโครงการโคมไฟโซล่าเซลล์ และโครงการปล่อยพันธ์ปลาลงหนองหาร โดยอ้างว่ามีโครงการดังกล่าวหากอยากได้งานให้วางเงินค้ำประกันงานไว้ ทั้งหมด 6.5 ล้านบาท แต่สุดท้ายถูกตุ๋นจนเปื่อยโครงการไม่เกิดแถมเงินก็ไม่ได้คืนจึงได้เข้าแจ้งร้องทุกไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองสกลนครยันเอาผิดจนถึงที่สุดหากไม่ได้เงินคืน
นางสาวณัชชา เล่าเรื่องให้ผู้สื่อข่าวฟัง ว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดเหตุเมื่อเดือนมีนาคม ปี 64 นายชูพงษ์ คำจวง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ได้มอบให้นายบุญธรรม นายสมบูรณ์และนายตันติกร คำมุงคล ซึ่งมาติดต่อพูดคุยกับสามีของตน โดยนายบุญธรรม อ้างว่าอบจ.สกลนคร มีโครงการจัดซื้อโคมไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมติดตั้ง ภายในจังหวัดสกลนคร และปล่อยพันธุ์ปลาจีน ปลาไนลงในบึงหนองหาร เป็นงบประมาณของ อบจ.สกลนคร ตอนแรกตนและสามีไม่เชื่อแต่นายบุญธรรมได้พาไปพบกับนายก อบจ.ว่าโครงการนี้มีจริงถ้าจะตกลงเอาให้ติดต่อผ่านนายบุญธรรมและนายตันติกร ตนและสามีจึงขอทำโครงการนี้โดยไม่ต้องมีการประมูล แต่มีเงื่อนไขว่าตนต้องโอนเงินมาให้ก่อนเพื่อเป็นเงินประกันงานหลังจากนั้นตนและสามีจึงได้โอนเงินไปตามลำดับโดยโอนทั้งหมด 3 ครั้งเข้าบัญชีนายบุญธรรม นามสมบูรณ์ ทั้ง 3 ครั้ง ครั้งแรก จำนวนเงิน 2,100,000 บาท เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ปี 64 ธนาคารกรุงไทย ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวนเงิน 2, 200,000 บาท และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมปี 2564 ธนาคารออมสิน จำนวนเงิน 2,200,000 บาท แต่มารู้ทีหลังว่าโครงการนี้ไม่มีจริงจึงติดต่อขอเงินคืนแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงไปต่างๆ นานา โดยอ้างว่าจะหางานอื่นมาทดแทน เมื่อเห็นว่าคงไม่ได้เงินคืนแน่นอนแล้วพวกตนจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสกลนคร เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 ก่อนหน้านี้ก็ทวงถามนายกโดยตลอด และได้รับคำตอบกลับมาว่าว่าจะหาโครงการใหม่มาให้เพื่อทดแทนโครงการเก่าที่ไม่ได้งาน มีอยู่ช่วงหนึ่งของเดือนพฤษภาคมปี 66 สามีป่วยต้องหาเงินรักษาตัวเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ธุรกิจก็แย่ใช้ชีวิตลำบากมาก ๆ ต้องหาเงินใช้หนี้ธนาคาร และมีอยู่ช่วงหนึ่งเพื่อนคนสนิทพาไปพบนายกเพื่อขอเงินคืนก็บอกว่าจะโอนเงินให้เพื่อไปบรรเทาการดำรงชีวิตไปก่อน พอได้โครงอะไรแล้วค่อยหักลบกลบหนี้กัน สุดท้ายโครงการ ก็ไม่มีเงินก็ไม่ได้คืน
ข่าวน่าสนใจ:
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
นางสาวณัชชา ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า เงินก้อนดังกล่าวตนได้เอาที่ดินของคุณพ่อกับคุณแม่ไปค้ำประกันกู้เงินธนาคารมาเพื่อทำโครงการปลาและโซลาร์เซลล์แต่สุดท้ายโครงการนี้ก็ไม่มี เท่ากับว่าตนกับสามี โดนนายชูพงศ์ คำจวง นายก อบจ.สกลนคร พร้อมพวก ร่วมกันฉ้อโกงหลอกให้นำเงินมาลงทุนรวมทั้งสิ้น 6,500,000 บาท ตนกับสามีเดือดร้อน มาก อยากบอกนายก อบจ.สกลนครว่า เอาเงินมาคืนให้ตนเถอะ กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม วันนี้จึงตัดสินใจร้องทุกข์กับสื่อ พร้อมร้องเรียนนายธรรมรงค์ สืบอ้าย นายกสมาคมพัฒนาชนบท พาเข้ากรุงเทพไปร้องเรียนกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และจะไปร้องกระทรวงมหาดไทยด้วย ให้เอาผิดนายก อบจ.สกลนคร ที่หลอกให้โอนเงินแต่ไม่มีโครงการดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร้องทุกข์ร้องเรียนกลัวอิทธิพลหรือเปล่า นางสาวณัชชา ตอบว่า ก็มีความกลัวอยู่บ้างกลัวความไม่ปลอดภัยของครอบครัวกลัวอำนาจของนายกเพราะเป็นถึงประธานนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย แต่พอนึกถึงเงิน 6,500,000 บาท ที่โกงเราไป ความกลัวหายทันทีพร้อมสู้เพื่อความยุติธรรมและจะต้องเอาเงินของเราคืนมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: