ตำรวจเตรียมแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด หามือขับฟอร์จูนเนอร์ โจรกรรมจากชุมพร มาจอดทิ้งไว้ที่นครพนม
การกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาวหมายเลขทะเบียน กท.3424 ชุมพร ที่ถูกโจรกรรมในพื้นที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร พร้อมกับการหายตัวไปของนายขนบ สมหวังที่ขับรถคันดังกล่าว ซึ่งภรรยาของนายขนบ ได้แจ้งความไว้ที่ สภ. สวี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 67 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถว่าพบรถคันดังกล่าวขับอยู่บนทางหลวงระหว่างอำเภอโพนสวรรค์จังหวัดนครพนมเมื่อเวลา 14.50 น. มุ่งหน้ายังอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่จึงวิทยุให้ตำรวจทางหลวงสกัดจับ ก่อนที่คนร้ายจะไหวตัวทัน และขับเข้าเส้นทางสายรอง ระหว่างอำเภอโพนสวรรค์ลัดเลาะเข้าสู่ตัวอำเภอเมืองจังหวัดนครพนม และหลังจากคลาดกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง คนร้ายก็ขับรถคันดังกล่าวลัดเลาะไปจอดไว้ที่บริเวณสวนยางบ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม โดยหลังจอดรถคนร้ายได้วางกุญแจรถไว้ในรถในลักษณะเหมือนกับว่าจะมีคนมารับไม้ต่อเพื่อขับรถคันดังกล่าวต่อไป เนื่องจากพื้นที่จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่ที่แก๊งโจรกรรมรถจะนำรถที่โจรกรรมมาได้ส่งข้ามไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านทางช่องทางธรรมชาติ โดยจะแบ่งกันทำงานเป็นทีม มีทีมขับรถมาจอดซ่อนไว้แล้วส่งพิกัดให้อีกทีมหนึ่งให้มารับรถที่จอดซ่อนไว้ โดยทิ้งกุญแจรถไว้ให้ เมื่อทีมที่จะรับไม้ต่อตรวจสอบแล้วเห็นว่าปลอดภัยก็จะมาขับรถไปดำเนินการต่อไป โดยทั้งหมดใช้การติดต่อกันทางแอพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ โดยที่ไม่ต้องเห็นหน้าหรือพบเจอกันเลย
จนกระทั่งเวลา ประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าละเมาะใกล้สวนยาง โดยสามารถหลบรอดการไล่ล่าของตำรวจทางหลวงได้อย่างหวุดหวิด เจ้าหน้าที่จึงรุดเข้าตรวจสอบ และแจ้งร้อยเวรสอบสวน สภ.เมือง นครพนมและตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานให้ร่วมตรวจสอบทันที
ล่าสุดหลังจากเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข่าวการพบรถให้แก่ผู้ครอบครองรถคือ เจ๊อ้วน ซึ่งเป็นภรรยาของนาย ขนบ ที่หายตัวไปยังไม่ทราบชะตากรรม โดยชุดสืบสวนได้กระจายลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่าง ๆ ที่คาดว่าคนร้ายได้ขับรถคันดังกล่าวผ่าน เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ต่อไป โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่จังหวัดชุมพร สามารถจับภาพคนขับรถคันดังกล่าวหลังโจรกรรมรถไปได้อย่างชัดเจน โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ทางตำรวจชุดสืบสวนของจังหวัดส่งมาให้กับตำรวจทางหลวง เพื่อให้ติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานนครพนมจะได้เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงภายในรถคันดังกล่าวเพื่อเก็บหลักฐานหาความเชื่อมโยงของผู้ก่อเหตุในคดีต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: