จากกรณีตำรวจ ส.ทล.4 กก.4 บก.ทล.ได้ติดตามสกัด รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท 4324 ชุมพร หลังผู้ครอบครองรถคือนางวันเพ็ญ หรือเจ๊อ้วน ได้แจ้งความไว้ที่สภ. สวี ว่ารถคันดังกล่าวได้หายไปพร้อมกับนาย ขนบ สามี ของตัวเอง เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 และภายหลังหลังคนร้ายได้ขับรถคันดังกล่าวมาจอดซุกป่ายาง ข้างศูนย์พัฒนาที่ดินจังหวัดนครพนม บ้านดงโชคหมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม หลังจากที่ถูกตำรวจทางหลวงสกัดตามเส้นทางหลักที่คาดว่าจะขับผ่าน จนคนร้ายได้เปลี่ยนเส้นทางเข้าถนนสายรองตามหมู่บ้าน แล้วนำมาจอดซุกไว้ที่บริเวณดังกล่าว พร้อมกับทิ้งกุญแจรถไว้ในรถ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้า วันที่ 6 ก.พ.67 พ.ต.อ. จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐาน นครพนม ได้สั่งการให้ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานนำรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีการตรวจลายนิ้วมือแฝงภายในรถ และรอบ ๆ ตัวรถอย่างละเอียดพร้อมเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ภายในรถอย่างละเอียด เพื่อเป็นหลักฐานในการเปรียบเทียบ ดีเอ็นเอกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีต่อไป เนื่องจากคดีนี้ไม่ได้เป็นคดีโจรกรรมรถธรรมดา แต่มีคนสูญหายไปด้วย ซึ่งหากสอบสวนพบว่ามีการลักพาตัวและผู้สูญหายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็จะต้องเก็บหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียดเพื่อใช้เป็นหลักฐานทางคดีต่อไป
ร.ต.อ.กัมปนาท กัลยานาม สว. ส.ทล.5 กก.บก.ทล. เปิดเผย หลังตรวจยึดรถได้จึงได้โทรศัพท์หา นางวันเพ็ญหรือเจ๊อ้วน โดยเบื้องต้นเจ๊อ้วนแจ้งว่าจะมาดูรถและรับรถกลับในวันนี้ แต่ล่าสุดตนได้รับแจ้งจากเจ๊อ้วนว่า ยังไม่สามารถมารับรถได้เนื่องจากยังต้องให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.สวี จังหวัดชุมพรให้แล้วเสร็จเสียก่อน จึงยังไม่สามารถเดินทางมาที่จังหวัดนครพนมได้ภายในวันสองวันนี้
