ตรัง- เกษตรกรปลื้มดีใจ ปลูกผักปลอดสาร ขายได้ราคาดีตลอดปี เร่งเตรียมผักรองรับทรัพย์เทศกาลตรุษจีน กะหล่ำหัวละ 50 บาท คะน้ากก.ละ 60- 80 บาท โดยเกษตรกรยืนยันปีนี้ผักราคาดีตลอดทั้งปี
ที่หนำนาคาเฟ่ หมู่ 1 ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นแปลงเกษตรผสมผสาน ร้านคาเฟ่ และ ร้านอาหาร บนเนื้อที่ 9 ไร่เศษ ทั้งผักสลัด พืชผักสวนครัวที่ทุกครัวเรือนจะต้องใช้ในการผู้บริโภคเป็นประจำ รวมทั้งไม้ผล โดยนายลือชัย รองเดช เป็นเจ้าของ และมีบรรดาเครือญาติ ช่วยกันปลูกผัก ผลไม้ ไว้เพื่อจำหน่ายและใช้ในร้านอาหารฮาลาล ร้านคาเฟ่ และสามารถเก็บผักหมุนเวียนไว้ใช้และจำหน่ายได้ทุกวันโดยลูกค้าจำนวนมากเดินทางมาซื้อโดยการสั่งจองล่วงหน้า เพราะมั่นใจในความปลอดภัย โดยพืชผักใช้วิธีการปลูกหลายแบบ ทั้งปลูกแบบลงดินทั่วไป ปลูกลงดินกางมุ้ง แบบยกแคร่เปิดโล่ง แบบยกแคร่กางมุ้ง หรือปลูกในโรงเรือน ปลูกในกระถาง ปลูกในถุงดำแบบเปิดโล่ง แปลงปลูกแบบไฮโดรโปรนิกส์ ปลูกแบบยกแคร่พืชเดี่ยว และปลูกผักยกแคร่ลงดินแบบผสมผสาน เพราะตั้งใจที่จะให้ลูกค้าได้เห็นว่าพืชผักสามารถปลูกได้หลายรูปแบบ แต่อาจจะให้ผลผลิตที่แตกต่างกัน เพราะที่นี่เปิดเป็นแหล่งศึกษาดูงานของประชาชนทั่วไป รวมทั้งนักศึกษากศน.และเป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็กๆเยาวชน เพื่อให้ผู้มาศึกษาได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับที่ดินของตนเองต่อไป ซึ่งตอนนี้แปลงผักของหนำนาคาเฟ่ ได้ปลูกพืชเพิ่มเติมให้โตทันกับความต้องการของลูกค้าที่จะใช้พืชผักในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งตอนนี้ผักหลายชนิดกำลังแตกยอด เติบโต ทันเก็บเกี่ยวตามช่วงเวลาเทศกาลตรุษจีน เช่น ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง คะน้า กะหล่ำปลี มะเขือ มะเขือเทศ ฟัก พริก แตงกวา ถั่วฝักยาว กล้วย มะนาว มะละกอ ละมุด ฝรั่ง ตลอดจนผักสลัด เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ผักกาด เป็นต้น
นายมนูญ เพ็งจิต อายุ 60 ปี ผู้ดูแลแปลงผัก บอกว่า เดินที่ดินบริเวณนี้เป็นที่นามาก่อน ต่อมาปลูกยางพารา แต่ยางพาราราคาตกต่ำและเป็นพื้นที่น้ำท่วมถึง จึงได้พลิกฟื้นที่ดินใหม่ ทำท้องร่องกักเก็บน้ำ จากนั้นได้หันมาปลูกพืชแบบผสมผสานตามแนวหลักเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้ของคนในชุมชน ทั้งนี้ เริ่มทำแบบผสมผสานมาได้ประมาณปีครึ่ง ครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จเพราะว่าดินเปรี้ยวแต่ได้มีการปรับปรุงด้วยการใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยจุลินทรีย์ หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือนจึงเริ่มปลูกครั้งที่สอง ปรากฎว่าผลผลิตดีขึ้นประมาณ 60% พอมาปลูกนับตั้งแต่รอบที่ 3 จนถึงตอนนี้บางชนิดเข้าสู่รอบที่ 6 ปรากฏว่าผลผลิตได้ 100% หลักๆที่ปลูกก็คือเป็นพืชผักสวนครัว เอาไว้หมุนเวียนใช้กับร้านกาเฟ่ และร้านอาหาร และตัดขายได้ทุกวัน เป็นที่ต้องการไม่พอขาย เพราะปลอดสารพิษ กำจัดหนอนแมลงด้วยน้ำหมักที่ผสมขึ้นมาเองสามารถกำจัดหนอนแมลงอย่างได้ผล โดยใช้น้ำขี้เถ้า ผสมน้ำมันใช้แล้ว เปลือกมะนาวที่ใช้ น้ำส้มสายชูเล็กน้อย น้ำยาล้างจาน เพื่อเป็นการละลายน้ำมันไม่ให้น้ำมันจับตัว เป็นสารจับใบด้วย ใช้ในการฉีดพ่นไล่ฆ่าแมลง รวมทั้งใช้กาวดักจับ และทำขวดล่อแมลง นอกจากนั้นปลูกตามออเดอร์ของพ่อค้า แม่ค้าเจ้าประจำด้วยที่สั่งให้ปลูกป้อนให้โดยรับทั้งหมด และตอนนี้เตรียมไว้ขายช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้อย่างดีสามารถเลี้ยงตัวเองได้ และจ้างแรงงาน ซึ่งใช้แรงงานญาติพี่น้อง เพื่อได้มีงานทำด้วย ทั้งนี้ แม้จะเป็นผักปลอดสารเคมี แต่ก็ขายในราคาเท่ากับพืชผักทั่วไปในท้องตลาด ไม่ได้ขายแพงกว่า เช่น กะหล่ำปลี ขายราคาหัวละ 50 บาท คะน้า กก.ละ 60 -80 บาท แตงกวากก.ละ 20 บาท กวางตุ้งกก.ละ 40 บาท ผักกาดขาวกก.ละ 40 บาท มะเขือเทศ กก.ละ 60 บาท หากแบ่งขายเป็นแพ็คๆละ 20 บาท เมล่อน กก.ละ 140 บาท ส่วนอื่นๆ ราคาเท่ากับราคาในตลาด สำหรับปีนี้ผักขายได้ราคาดีตลอดทั้งปี เพราะที่ผ่านมาฝนตกโดยตลอดผักที่ปลูกโดยไม่ได้มีการวางแผนจะเสียหายทั้งหมด แต่ของตัวเองจะมีการวางแผนจึงได้ผลดีตลอดปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและช่วงตรุษจีนก็ขายได้ดีเป็นพิเศษ ผู้ที่ต้องการศึกษาดูงานติดต่อได้เฟสบุ๊ค หนำนาคาเฟ่ หรือที่เบอร์โทร 089-8741646
