กรุงเทพฯ : คดีมินนี่ เครือข่ายเว็บพนัน ยังไม่จบ สอท.เรียก บิ๊กโจ๊ก เข้าให้ปากคำ ฐานะพยาน รอง ผบ.ตร.ปัดเอี่ยวทุกกรณี ยืนยันว่าไปตามกระบวนการ รออัยการสั่ง เพราะหมดหน้าที่ของตำรวจ เชื่อเป็นการกระทำที่ต้องการดิสเครดิตตนเอง พร้อมเตือนสื่อนำเสนอข่าว
จากกรณีที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรมมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ทำการออกหมายเรียก พลตำรวจเอก.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ไปสอบปากคำในฐานะพยานในที่ 20 ก.พ. ปมโยงเว็บพนันของ ‘มินนี่’
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุว่า เรื่องนี้มีการปูพื้นมาจากเว็บพนันของเครือข่ายมินนี่ และมีการโยงเส้นทางการเงินมายังลูกน้องของตนเองทั้ง 8 คน และสำนวนคดีมีการสั่งฟ้องไปยังอัยการแล้ว ซึ่งสั่งฟ้องอัยการแล้ว ตำรวจจะหมดอำนาจทันทีในการสอบสวน ถ้ามีการสอบสวนจะต้องมีคำสั่งจากอัยการเท่านั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม เปิดคลิป วัยรุ่น เหิมหนัก ยกพวกใช้มีดไล่ฟันคู่อริ พร้อมทุบทำลายทรัพย์สินอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- "กรุงเทพฯ ดีต่อใจ" ชวน ฮีลกาย..ฮีลใจ รับปีใหม่ 3-5 ม.ค.68
พร้อมกับยืนยันว่าตนเองไม่เกี่ยวข้องเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ เนื่องจากไม่ได้ให้คุณให้โทษกับเว็บพนัน และไม่ได้คุมไซเบอร์ ถึงแม้ว่าจะเป็นรอง ผบ.ตร.ที่ดูความมั่นคงก็ตาม ส่วนกรณีพบเส้นทางการเงินของตนเองโอนไปยังลูกน้องนั้น ยืนยันว่าเป็นเงินที่ตนเองได้ให้ไปทำงาน ไม่ใช่เงินที่มาจากเว็บพนัน ส่วนเรื่องที่ตกเป็นเป้าหมายนั้น เชื่อว่าสังคมรู้ดีว่าเป็นการดิสเครดิตตนเอง ส่วนจะเป็นเรื่องไหนนั้นไม่ขอพูด และเชื่อว่าจะมีการแต่งบทละครใส่ร้าย จงใจให้เสียชื่อเสียง จนกว่าคดีนี้จะยุติ
สำหรับหมายเรียก ของ สอท. ที่ระบุว่า ให้ตนเองไปให้การในฐานะพยานนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสามาแต่อย่างใด และจะเดินทางไปหรือไม่นั้น ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจอะไร และต้องเป็นคำสั่งของอัยการเท่านั้นถึงจะเดินทางไป เพราะสำนวนคดีนี้อยู่กับอัยการ และส่วนหนึ่งอยู่ที่ ป.ป.ช.
รอง ผบ.ตร. ยังกล่าวอีกว่า รู้สึกสงสารลูกน้อง และพนักงานสอบสวนบางคนที่ถูกเรียกมาเซ็นชื่อแต่ไม่ได้ทำสำนวน ขอเตือนว่าพอถึงเวลาปัญหาเกิดขึ้นจะต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีนายอยู่เคียงข้าง เพราะตนเองเจอมาหมดแล้ว พร้อมเตือนสื่อมวลชนที่แชร์ข่าวให้ตนเองได้รับความเสียหาย ว่า ให้พึงระวังหากข่าวดังกล่าวไม่จริง ตนเองจะใช้กฎหมายดำเนินการ
ส่วนเรื่องที่อัยการถูก 1 ใน 8 ลูกน้องของตนเองไปคุกคาม สะกดรอยตามนั้น จากการสอบถามลูกน้องยืนยัน ว่า ไม่ได้กระทำการลักษณะดังกล่าว และหลังจากเป็นกระแส ก็ได้ยื่นเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อที่จะต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่
กรณีที่ พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีการไปคุกคาม ได้มีการมาปรึกษาก่อนยื่นจดหมายถึงนายกหรือไม่ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ตนเองเพิ่งรู้หลังจากที่ยื่นหนังสือไปแล้ว เพราะถ้าทราบก่อนจะไม่ให้ไปยื่นเด็ดขาด เพราะมองว่าไม่จำเป็น
ส่วนกรณีของ ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ หวัดแวว ถูก 1 ใน ชุดพนักงานสอบสวนของ สอท. โทรศัพท์เข้ามาเพื่อให้กลับคำให้การ ทำให้ตนเองและพวกเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอยืนยันว่า มีการติดต่อมาจริง เป็นพนักงานสอบสวน ยศนายพัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ลูกน้องของตนเอง จะยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่าพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวเข้าข่ายผิด ม.157 หรือไม่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: