กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี เดินหน้าทำงาน ไม่สนเสียงเหน็บ นายกฯ 3 คน ยืนยัน ไม่ได้คุยปรับ ครม.กับนายทักษิณ ไม่ปิดกั้นใครเข้าพบ นายทักษิณ เพราะเป็นธรรมเนียม พบผู้บังคับบัญชา-นายเก่า
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และการถูกเปรียบเปรย ว่ามีนายกรัฐมนตรี 2 คน 3 คนว่า
ขอให้ดูที่การกระทำ แม้บอกว่าตนเองไม่ใช่นายกฯ คนเดียว ก็ไม่ได้เปลี่ยนวิธีการทำงาน ยังทำงานทุกวันเหมือนเดิม ยังลงพื้นที่ทำงานทุกวันเหมือนเดิม คงไปห้ามวิธีคิดของคนไม่ได้ ก็ทำงานต่อไป ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้โกรธ น้อยใจ หรืออะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ตื่นเช้าไปทำงาน พรุ่งนี้ประชุม ครม. และลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับมาก็ลงพื้นที่ต่อ ที่จังหวัดศรีสะเกษและร้อยเอ็ด
จากนั้น ก็มีการประชุม ครม.ต่อ ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม และวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม ก็จะเดินทางไปประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย ก่อนเดินทางต่อไปที่ประเทศเยอรมันีและฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐา ระบุว่า นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุดคนหนึ่ง ตนเองก็ชื่นชอบ ถ้าอยากให้คำปรึกษา ก็พร้อมรับ เช่นเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่น ๆ เช่น นายอานันท์ ปัญญารชุน หรือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนเองเพิ่งรับตำแหน่งได้ 6 เดือน ต้องรับฟังข้อมูล คำเสนอแนะของผู้ใหญ่ แต่กาลเวลาก็เปลี่ยนไป บางอย่างอาจทำได้ในสมัยก่อน แค่บางอย่างต้องเปลี่ยนแปลง
นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี เนื่องจากนายทักษิณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคณะรัฐมนตรี และเกรงว่าคนทำงานจะเสียกำลังใจ และคนที่ทำหน้าที่นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ก็ต้องเป็นตนเองเท่านั้น
เมื่อถามว่า มีแผนที่จะเข้าพบนายทักษิณ เพื่อขอคำปรึกษาอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่อยู่ในแผน แต่มีรัฐมนตรีบางคนเข้ามาถามว่า จะเข้าไปเยี่ยมได้หรือไม่ ก็ได้บอกไปว่าตามสบาย แล้วแต่ท่านเลย เป็นผู้บังคับบัญชาเก่า เป็นนายเก่า ไม่มีปัญหาอะไรถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน บางท่านมีประวัติรู้จักกันมายาวนาน 20-30 ปีแล้ว ไม่เจอกันมา 10 กว่าปี ตามธรรมเนียมคนไทยต้องไปเยี่ยมเยียนกันบ้าง ไม่ได้คิดอะไร
“ส่วนวาทกรรม นายก 1 2 3 4 มันไม่เกี่ยวหรอก คุยเรื่องความดีดีกว่า ทุก ๆ นายกฯ อยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ถึงแม้จะเป็นฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายเดียวกันก็ตามที ตอนนี้เป้นหน้าที่ผมในฐานะผู้บริหารสูงสุด นายกรัฐมนตรีต้องมีการกลั่นกรองข้อมูล ตรงไหนทำได้ก็ทำ”
คาด ได้ใช้งบฯ 67 เร็วขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการที่ คณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ 2567 พิจารณาเสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 3 สัปดาห์ว่า เป็นเรื่องดี เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการใช้งบประมาณ 67 เลย แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ประมาณวันที่ 2 เมษายน คาดว่าน่าจะจบได้ คาดว่าจะใช้งบฯได้เร็วขึ้น และไม่กังวล หากฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะฝ่ายบริหารมีหน้าที่ต้องตอบ ฝ่ายนิติบัญญัติก็มีหน้าที่ออกกฎหมายหรือตรวจสอบ
ยาหอมกองทัพ ยกระดับชีวิตทหารชั้นผู้น้อย
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจบ้านพักข้าราชการทหารเรือ ในซอยอรุณอมรินทร์ 35 นั้น นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อตรวจดูความเป็นอยู่ ของนายทหารและตำรวจชั้นประทวน หลังจากไปดูแฟลตตำรวจ และบ้านพักทหารบกส่วนกลางแล้ว ต้องไปดูให้ครบทุกเหล่าทัพ เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องดูแลความปลอดภัย ดูความแออัด เนื่องจากสภาพบ้านที่เก่าหลายสิบปี เพราะก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2505 จะพยายามปรับปรุงแก้ไข จากบ้านพักชั้นเดียว จะสร้างเป็นให้เป็นตึกเท่าที่จะสามารถทำได้ เพราะพื้นที่เล็ก แต่มีความต้องการสูง เพราะอยู่ใจกลางเมือง
นอกจากนี้ จะทำบ้านพักที่อื่นคู่ขนานไปด้วย เช่น ป้อมพระจุลจอมเกล้า จ.สมุทรปราการ ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนทุกระดับ ทุกหมู่เหล่า ทหารเป็นรั้วของชาติ จึงอยากให้ประชาชนทราบว่า ถ้าสมัครใจเกณฑ์ทหารเข้ามาแล้ว ทุกกองทัพจะดูแลเป็นอย่างดี โดยจะบรรจุเข้าไปในงบประมาณแต่ละปี จะ 3 ปี 5 ปี 7 ปี หรือ 10 ปี ค่อยมาว่ากัน ขึ้นอยู่กับกำลังพลและกำลังเงิน
