ตรัง-สถานทูตสวิส ยัน ปล่อยให้ดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ชายขาวสวิสทำร้ายร่างกายป้าชาวตรังสาหัส รองผู้ว่าฯ-สสจ.รุดเยี่ยม ผู้เสียหายเปิดปากเล่านาทีรัวหมัดจนปางตาย เชื่อเจตนาพยายามฆ่าเพราะใช้เข่ากดหลอดลม ชกต่อยรุนแรง ขอดำเนินคดีถึงที่สุด ผู้การฯตรัง เตรียมแถลงข่าวด่วน
จากกรณีชายชาวสวิสเซอร์แลนด์วัย 60 ปี ซึ่งพำนักอยู่ในจังหวัดตรัง โดยถือวีซ่าเป็นแบบพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ ทราบชื่อตามหนังสือเดินทาง ระบุชื่อ Mr.Straumann Dietermatthias ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางนัฎชนันท์ ขิกขำ หรือ แม่รี อายุ 53 ปี อาการสาหัสรุนแรงกลางห้างดังภายในเขตเทศบาลนครตรัง จนจมูกหัก ตาบวม หลังบวม มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกเนื่องจากจากจมูกหัก ต้องพักรักษาตัวไม่น้อยกว่า 1 เดือน โดยญาติยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองตรัง ได้ควบคุมตัว Mr.Straumann ไปยังสภ.เมืองตรัง และสอบสวนร่วมกับ เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แต่ Mr.Straumann ไม่ยอมปริปากให้การใด ๆ ทำให้การสอบสวนกินเวลานานข้ามคืน สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบล่าสุดเช้าวันนี้(6 มีนาคม 2567) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ที่สภ.เมืองตรัง นายกฤตพงศ์ ขิกขำ ลูกชายและญาติของผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 คน ได้มานั่งสังเกตการณ์ที่หน้าโรงพัก ในขณะ Mr.Straumann ก็ยังคงนั่งอยู่ในห้องโถงของโรงพัก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและมีล่ามภาษาอังกฤษเข้าไปพูดคุยสอบถาม และยังมีท่าทีเงียบขรึม เครียด ไม่ไว้ใจใครไว้ใจเพียงแต่ล่ามเท่านั้น โดยสื่อสารผ่านล่ามเป็นบางครั้งเท่านั้น โดยตลอดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาชายชาวสวิส คนดังกล่าว ไม่ยอมพูดกับตำรวจและตำรวจท่องเที่ยว และไม่ยอมไว้ใจใคร พร้อมยังไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาอีกด้วย และยังบอกผ่านล่ามว่า ตนเองรู้สึกกังวลที่ถูกละเมิดเนื่องจากโดนถ่ายรูป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่ายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายโดยสาหัส และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ขัดขืนการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน โดยไม่ยอมพิมลายนิ้วมือ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนขออนุมัติศาลเพื่อฝากขังในวันนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดทางตำรวจท่องเที่ยวได้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งทางสถานทูตได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ให้ดำเนินตามข้อกฎหมายของประเทศไทยได้เลย ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิดและเตรียมแถลงข่าวช่วงบ่ายวันนี้ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จากสวนปาล์มตรังสู่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานต้นแบบ ขุดสระน้ำเป็นรูปเลข 9 อารบิก สอดคล้องกับแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9
- ตรัง อึ้ง!! เด็ก-เยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษากว่า 6 พันคน ศึกษาธิการตรังสั่งรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูล รับนโยบาย Thailand zero dropout
- ตรัง ราคายางดิ่งกว่า 20 บาทต่อกิโลกรัม กยท.หนุนสถาบันทำโครงการชะลอยางสู้นายทุน
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง นายสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นตัวแทนนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนายจักรพงษ์ รัชนีกุล นายอำเภอเมืองตรัง นายแพทย์สินชัย รองเดช นายแพทย์าธารณสุขจังหวัดตรัง แพทย์หญิงกรองแก้ว ทองเรืองสุกใส รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ คนที่ 2 โรงพยาบาลตรัง พร้อมส่วนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้รุดเดินทางไปเยี่ยมนางนัฎชนันท์ ขิกขำ หรือแม่รี อายุ 53 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมมอบกระเช้า และพูดคุยให้กำลังใจ และขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินคดี
นายแพทย์สินชัย รองเดช นายแพทย์สสจ.ตรัง กล่าวว่า เหตุในตรงนี้ เราจะต้องดูแลทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน คาดว่าน่าจะใช้เวลาในการรักษาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนกว่าจะหายเนื่องจากกระดูกแตก
ด้านนางนัฎชนันท์ ขิกขำ หรือแม่รี อายุ 53 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าถึงช่วงกรณีที่เกิดเหตุว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนก็ได้นำรถเข็น ไปซื้อเครื่องดื่มน้ำอัดลม แล้วรถเข็นก็ได้ไปชนเอาชั้นวางของเลย พอชนเสร็จก็ตนเองเอื้อมมาหยิบน้ำได้ 1 ขวด และกำลังหยิบขวดที่ 2 ซึ่งก็ถือขวดน้ำอยู่ในมือ แล้วฝรั่งคนดังกล่าวก็ได้เดินเบียดตนเองเข้ามาจากข้างหลัง จากขวามาซ้ายแล้วก็มาเบียดรถเข็นจนรถขนเหวี่ยงออกไป ตนก็ไม่ได้พูดอะไร และเขาก็เข้ามาเบียดอีกครั้งหนึ่ง รถเข็นก็เริ่มเป๋ออกนอกทาง ตนก็ได้พูดว่า Excuse Me แต่เขาก็ไม่หยุด และเขาก็เบียดอีกรอบนึง แล้วตอนนี้พยายามจะเอื้อมหยิบและตนก็พูดว่า Excuse Me แต่เขาก็ไม่หยุด ก็เลยบอกเขาว่า Be polite please. แล้วฝรั่งคนนั้นก็หันมามองหน้าตน ซึ่งพอเขาหันมามองหน้าตนก็ไม่ยุ่งด้วย ก็ได้เดินหันหลังเข็นรถจะเดินไป และเขาก็เดินตามหลังมาแล้วก็พูดออกมาแต่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษตนก็ฟังไม่ออก แล้วก็พูดเสียงดังๆ และใส่อารมณ์ ตนก็พูดว่า “Be polite please. ดิฉันพูดย้ำว่าสุภาพหน่อยได้ไหม ทำไมทำกับคนไทยแบบนี้ ฉันเป็นคนไทยนะ คุณเป็นฝรั่ง แล้วมาทำกับฉันแบบนี้ทำไม” เขาก็พูดๆๆ ตะคอกมาและชี้หน้าใส่ตน แล้วคำหนึ่งที่ฟังออกเป็นภาษาอังกฤษคือ บูชิต ก็คือด่า เมื่อเขาด่าเสร็จเขาก็ง้างหมัดชกตนเลย
นางนัฎชนันท์ กล่าวต่อว่า ตนไม่คิดว่าจะโดนชกก็ยืนมึนไปพักนึง หลังจากนั้นก็โดนชกรัวๆเ ข้าที่หน้า รัวแบบไม่มีทางที่ว่าตนจะหลบได้เลย แล้วเขาก็หันหลังเดินกลับ พอหันหลังกลับมือของตนเองที่ถือขวดน้ำอยู่ ก็รู้สึกว่าไม่ยอมเพราะโดนทำร้ายขนาดนี้จะให้เขาเดินหนีไปอย่างนั้นก็ไม่ได้ ตนก็เลยเขวี้ยง ขวดออกไปแบบไม่มีแรงซึ่งขวดตกลงที่พื้น พอได้ยินเสียงขวดน้ำตกกับพื้น ฝรั่งคนดังกล่าวก็หันกลับมาแล้วก็มากระชากตน แล้วรัวหมัดใส่ตนตรงนั้นเลย ตนก็สู้กลับ แต่เขาก็เขวี้ยงตัวเราลงกับพื้นหัวฟาดพื้นหัวโนเลย และขึ้นเอาหัวเข่ากดหลอดลมเลย ตนรู้สึกเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว และเขาก็ชกเข้ามาที่หน้าเต็มๆ ชกรัวๆเลย นับไม่ถ้วน ตอนนั้นตนพยายามตะโกนให้คนช่วยแต่ก็ไม่มีใครช่วย ตนก็เลยกรี๊ดดังลั่น เขาก็เลยยอมปล่อย จากนั้นเขาก็ลุกเดินหนีไป พอเขาเดินหนีเสร็จตนก็นั่งจมกับกองเลือด เลือดออกมาเป็นลิ่มเลือดเลย เลือดเต็มบริเวณนั้น แล้วก็นั่งมอง แล้วก็มีคนมองเต็มเลย แต่ก็ไม่มีคนเข้ามาช่วย ตนก็เลยพูดว่า “ช่วยด้วย ก็เลยถามออกไปว่าไม่มีใครคิดจะช่วยเลยหรอ” จากนั้นจึงมีคนเดินเข้ามาช่วย แล้วก็ได้มีพนักงานห้างดังกล่าวเอากระดาษมาห้ามเลือด เอาผ้ามาเช็ดเลือดให้ แล้วก็กดโทร 1669 และตนก็ได้บอกให้ว่าอย่าให้ฝรั่งคนนั้นหนีไป ซึ่งทางห้างก็สกัดไว้ด้านหน้าแล้ว
“ฉันก็รู้สึกงงเพราะเราเป็นคนไทย มาทำคนไทยแบบนี้ได้ยังไง เขาโกรธถึงขนาดทำร้ายปางตายเลย ซึ่งใช้หัวเข่ากดตรงที่หลอดลมแรงมากเหมือนจงใจฆ่าเลย ฉันก็ไม่คาดคิดว่าจะโดนเขาทำร้ายได้ขนาดนี้ สำหรับตอนนี้อาการจะมึนๆ แล้วก็ปวดตรงบ่าไหล่ รู้สึกได้ว่าเขาเน้นบริเวณดวงตา และอาการตอนนี้ก็มองเห็นไม่ค่อยชัด เนื่องจากน้ำตาไหลตลอด กระดูกจมูกแตก หมอเย็บทั้งหมด 8 เข็ม บริเวณปากช้ำเล็กน้อย ซึ่งทางแพทย์ยังไม่ระบุว่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลอีกกี่คืน แต่คาดว่าก็คงรักษาตัวอยู่สักพัก ในทุกวันนี้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นเยอะมาก พูดง่ายๆ ก็คือผู้คนจะได้รับข่าวสารที่มีแต่ความรุนแรงเป็นหลักกลายเป็นชีวิตประจำวันไปแล้วว่าจะต้องมีข่าวการทำร้ายกัน ความรุนแรงมีเกิดขึ้นทุกวัน ถ้าเป็นไปได้คือ ถ้ามีอะไรที่เราคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เป็นความบานปลายที่รุนแรงได้ ไม่ต้องคิดที่จะไปต่อล้อต่อเถียงหรือจะประมือด้วย เอาตัวเองให้รอด แล้วสำหรับฝรั่งคนนี้ก็คือเหมือนเราไปเที่ยวบ้านอื่นเมืองอื่น เราต้องเคารพพลเมืองของเขาก่อน ไม่ใช่ว่าพอเห็นคนไทย ก็ควรให้เกียรติเขาหน่อยไม่ใช่จะมาทำแบบนี้กับเราได้ ถึงตอนนี้ฉันก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับฝรั่งคนนั้น มันเป็นการทำที่ไร้เหตุผลมากๆ ถ้าโกรธมากอย่างดีก็แค่ต่อยนิดหน่อย อาจจะระบายอารมณ์ตัวเอง แต่เอาหัวเข่าตัวเองมากดหลอดลมมันไม่ใช่แค่การทำร้าย มันเหมือนจะพยายามฆ่าฉัน และจะไม่ตกลงอะไรกับเขา ขอให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย”นางนัฎชนันท์ กล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติศาลเพื่อฝากขังแล้วในวันนี้ และนำตัวฝากขังเมื่อเวลา 11.30 น.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: