ชัยภูมิ – ผู้ว่า-ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่หาแนวทางช่วย จ่อวิกฤตกระทบระบบขาดน้ำผลิตประปาซ้ำแล้งหนักสุดในรอบหลายสิบปี!
( 8 มี.ค.67 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เริ่มวิกฤตแล้งจัดหนักรอบกว่า 10 ปี ขยายงกว้างต่อเนื่อง เกษตรกรชาวนาปรัง ใน 4 อำเภอ ทั้ง อ.หนองบัวระเหว อ.บ้านเขว้า อ.เนินสง่า อ.เมืองชัยภูมิ และ อ.จัตุรัส บางส่วน ที่มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังหลายหมื่นไร่ กำลังยืนต้นแห้งตาย โดยมีตัวแทนชาวบ้าน นายจรัล เชิดสา อายุ 83 ปี ชาวบ้านเลขที่ 13 หมู่ 8 บ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ เกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวนาปรัง ได้โอดครวญหนักในปีนี้
หลังในช่วงหน้าฝนตั้งแต่ส่งท้ายปี 66 ที่ผ่านมาและเข้าสู่ปี 67 ทั้งเกิดน้ำท่วมพื้นที่ปลูกข้าวของตนเองพื้นที่กว่า 30 ไร่ ได้รับความเสียหายทั้งหมด และช่วงหน้าแล้งปีนี้เสี่ยงปลูกข้าวนาปรังพื้นที่ประมาณ 16 ไร่กว่า ลงทุนปลูกข้าวนาปรังไปทั้งหมดกว่า 40,000 บาท ขณะนี้ต้นข้าวนาปรังที่เพาะปลูกไว้ กำลังตั้งท้องออกรวง จะเก็บเกี่ยวได้ไม่เกิน 30 วันข้างหน้า แต่น้ำในแม่น้ำชีได้แห้งขอดหมดแล้วไม่มีน้ำให้สูบเข้าพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังได้ในขณะนี้ซ้ำหนักอีก จนทำให้ต้นข้าวนาปรังเริ่มยืนต้นแห้งเหี่ยวตายไปแล้วบางส่วนแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
ที่ขณะนี้ก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นต้นข้าวนาปรังที่ลงทุนปลูก ต้องยืนต้นแห้งเหี่ยวตายไปต่อหน้าทั้งหมด จึงได้ลงทุนซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำมาขาย 5 คัน/รถน้ำ คันละ 10,000 ลิตร ในราคารถละ 500 บาท ได้น้ำ 10,000 ลิตร หมดเงินซื้อน้ำไปแล้ว 2,500 บาท เทน้ำลงพื้นที่นาปรังที่ใกล้ยืนต้นตายได้พื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษ เพื่อให้ต้นข้าวนาปรังรอดตายได้อีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อรอความหวัง ที่จะได้น้ำจากบึงละหาน อ.จัตุรัส และจากเขื่อนโปรงขุนเพชร ที่กำลังปล่อยลงมาเติมลงในแม่น้ำชี อีก 1 สัปดาห์กว่าน้ำจะไหลมาถึง หากไม่ถูกสูบดักหน้าไปหมดก่อน เพื่อที่จะพอเหลือให้ได้สูบน้ำมาเติมลงพื้นที่นาปรัง เป็นความหวังสุดท้ายที่ได้ทำนาในปีนี้
รวมถึงด้าน นางทองด้วง กระจ่างวงศ์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านเลขที่ 102 หมู่ 8 บ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ บอกว่าหน้าฝน นาน้ำท่วม ธกส.ก็ไม่ผ่อนผันเงินกู้ให้ หน้าแล้งจำเป็นต้องปลูกข้าวนาปรัง สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวนาปรังก็มาเจอปัญหาไม่มีน้ำมาช่วยหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้อีก ตอนนี้ก็รอความหวังว่าน้ำที่ปล่อยลงมาจะไหลมาถึงคนท้ายน้ำได้บ้างเพื่อพอได้มีผลผลิตข้าวในนาปีนี้ได้บ้าง
ขณะที่ชาวนาปรังบ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ บอกว่า มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเฉพาะในพื้นที่ไกลริมแม่น้ำชีไหลผ่านกว่าประมาณ 2,500 ไร่ เองก็ได้รับเดือดร้อนจากภัยแล้งหนักสุดในรอบกว่า 10 ปี อีกจุดไม่แพ้กัน และได้แต่หวังที่จะได้น้ำจากบึงละหาน อ.จัตุรัส และน้ำจากเขื่อนโปรงขุนเพชร อ.หนองบัวระเหว ปล่อยไหลลงมาเติมลงในแม่น้ำชี หากไม่มีน้ำมาเติมข้าวนาปรังที่ปลูกไว้ต้องยืนต้นตายแน่นอน รวมถึงไม่มีน้ำผลิตน้ำประปาหมู่บ้านอีกด้วยในปีนี้
ขณะที่ด้าน นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย นายสมบัติ มีลักษณะสม ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิ ,ปภ.ชัยภูมิ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ดูสภาพน้ำแห้งขอดที่แท้จริง ตามลำแม่น้ำชี ตั้งแต่พื้นที่ อ.บ้านเขว้า มาจนถึงพื้นที่บ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นลำแม่น้ำชีสายหลักที่ใช้หล่อเลี้ยงคนในจังหวัดชัยภูมิ และชาวอีสานในหลายจังหวัดมีความยาวกว่า 700 กิโลเมตร(กม.) และได้พบกับเกษตรกรชาวนาปรังที่กำลังเดือดร้อน ต้นข้าวนาปรังหลายแห่งเริ่มยืนต้นแห้งเหี่ยวตายบ้างแล้ว
โดย นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้แม่น้ำชีแห้งขอดเป็นช่วง ๆ วิกฤตเร็วกว่าทุกปี มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังบางส่วนได้แห้งเหี่ยวตายไปแล้ว ส่วนที่เหลือได้ประสานไปยัง อ.จัตุรัส ให้ปล่อยน้ำจากบึงละหาน ลงแม่น้ำชีวันละ 200,000 ลูกบาศก์เมตร ติดต่อกัน 3 วัน รวมน้ำประมาณ 600,000 ลูกบาศก์เมตร และเขื่อนโปรงขุนเพชร อ.หนองบัวระเหว จะปล่อยน้ำลงมาเติมลงในแม่น้ำชีอีก 600,000 ลูกบาศก์เมตร ได้น้ำทั้งหมดประมาณ 1,2000,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อให้ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ด้านล่างท้ายน้ำลงมาได้มีน้ำผลิตประปาได้ รวมถึงมีน้ำใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าวนาปรังที่กำลังตั้งท้องออกรวง ที่จะพอเก็บเกี้ยวได้อีกประมาณ 30 วันข้างหน้า เมื่อเกี่ยวข้าวนาปรังรอบนี้แล้ว ต้องขอความร่วมมือในการที่จะไม่มีการปลูกข้าวนาปรังในรอบที่ 2 ในปีนี้เพิ่มอีกด้วย ซึ่งไม่มีต้นทุนน้ำมาช่วยนาปรังทุกพื้นที่ในขณะนี้ให้ได้แล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: