กรุงเทพฯ – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน ไม่ได้กลั่นแกล้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หมายเรียกล่าสุด เป็นไปตามพยานหลักฐาน และเป็นคนละคดีกับที่ ป.ป.ช.รับเรื่องไว้ ชี้ ไม่จำเป็นต้องใช้ตำรวจยศ พล.ต.อ. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน
วันที่ 18 มีนาคม 2567 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจง กรณีพนักงานสอบสวนออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ‘เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินและ สมคบกันฟอกเงิน’ ในคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master วานนี้ (17 มี.ค.) ว่า
กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยมี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญขาการตำรวจนครบาล เป็นผู้รับผิดชอบ และทราบเรื่องในทางพฤตินัยแล้ว แต่เอกสารหมายเรียกยังส่งมาไม่ถึงตนเอง คาดว่าจะได้รับในวันนี้ และขอกลับไปตรวจสอบก่อน แต่ไม่มีผลทางคดี เพราะเป็นการรายงานในฐานะผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
พล.ต.อ.ต่อศักด์ ย้ำว่า เรื่องนี้ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้กลั่นแกล้ง เมื่อวาน (17 มี.ค.) เป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ที่มีกำหนดให้ไปรายงานตัว วันที่ 21 มี.ค.นี้ ที่ สน.เตาปูน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาว่า จะเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่ถ้าออกหมายเรียกครบ 2 ครั้ง แล้วยังไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจะพิจารณาออกหมายจับ
ส่วนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การออกหมายเรียกครั้งนี้ มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ เพราะสำนวนคดีอยู่ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)แล้วนั้น เป็นคนละส่วนกัน โดยคดีที่ ป.ป.ช.รับไว้ตรวจสอบ เป็นคดีเว็บพนันมินนี่ แต่ครั้งนี้เป็นคดี BNK Master ท้องที่ สน.เตาปูน อย่างไรก็ตาม ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา ที่จะโต้แย้งหรือปฏิเสธได้
ผบ.ตร.ยังยืนยันว่า คดีนี้ ยังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวน ตามที่เป็นข่าว แต่จะแยกออกจากคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ ที่มี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งแต่งตั้งมาตั้งแต่ ผบ.ตร.คนก่อน โดยจะส่งกลับไปยัง กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้พิจารณาว่า ไม่จำเป็นต้องเป็น ‘พลตำรวจเอก’ เนื่องจากจะเป็นข้อครหา เพราะแต่ละคนก็เป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่ง
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนหาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกออกหมายเรียกและถูกออกหมายจับ จะต้องมารายงานตัว ในฐานะต้องคดีอาญา หลังจากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีผลก็จะสั่งให้พักราชการ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องนี้จะแล้วเสร็จก่อนที่ตนเองจะ เกษียณอายุราชการ ภายในเดือนกันยายนนี้
สำหรับกรณีทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขู่จะออกมาแฉเส้นทางการเงิน โดยอ้างว่าจะสะเทือนไปทั้ง สตช.นั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ถ้าพยานหลักฐานถึงใคร ก็ต้องรับสภาพหากชี้แจงไม่ได้ แม้มาถึงตนเองก็ต้องรับสภาพเช่นกัน พร้อมมองว่าที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามภารกิจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะดูแลงานด้านความมั่นคง
