X

ส่งฟ้องศาลหญิงรัสเซียถีบหญิงตั้งครรภ์เกาะพะงัน

ตำรวจเกาะพะงันนำตัวหญิงรัสเซียที่ก่อเหตุใช้เท้าถีบหญิงตั้งครรภ์ 8 เดือนส่งฟ้องศาลจังหวัดเกาะสมุย พร้อมเสนอ ตม.สุราษฎร์ธานี พิจารณาเพิกถอนวีซ่า

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มี.ค. 67 ความคืบหน้ากรณีหญิงต่างชาติชาวรัสเซียทำร้ายร่างกายหญิงตั้งครรภ์ ที่ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยนางสาธิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้เสียหายที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ว่าขณะที่ทำงานอยู่ภายในร้านขายของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.1 ต.เกาะพะงัน ได้มีผู้หญิงชาวต่างชาติทราบชื่อภายหลังว่า MS.ALENA อายุ 41 ปี สัญชาติรัสเชีย เดินเข้ามาดูสินค้าภายในร้าน แต่ได้สวมรองเท้าและถือแก้วกาแฟเดินเข้ามาภายในร้าน ผู้เสียหายจึงบอกกับหญิงต่างชาติว่าไม่อนุญาตให้สวมรองเท้าเข้ามาภายในร้าน และไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มจากภายนอกเข้ามาภายในร้าน แต่หญิงต่างชาติกลับทำเหมือนไม่ได้ยินเสียง ผู้เสียหายจึงได้บอกไปอีกครั้ง หญิงต่างชาติได้ตอบกลับว่ารองเท้าของตนไม่ได้สกปรก จึงเป็นเหตุให้หญิงต่างชาติไม่พอใจผู้เสียหาย จึงได้ก่อเหตุใช้เท้าถีบผู้เสียหายไปจำนวน 2 ครั้ง และหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวหญิงต่างชาติชาวรัสเซียมาสอบปากคำ และให้การรับสารภาพต่อมาว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมกับกล่าวขอโทษผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนจึงได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย คดีอาญาที่ 90/2567 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2567 ในข้อกล่าวหา“ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ ที่ท่าเทียบเรือบริษัท เรือเร็วลมพระยา จำกัด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน ได้นำตัว MS.ALENA ผู้ต้องหาชาวรัสเซีย เดินทางส่งฟ้องศาลจังหวัดเกาะสมุย โดยมีแฟนหนุ่มสัญชาติเดียวกันเดินทางมาด้วย เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวได้มีปฏิกิริยาไม่พอใจที่ถูกผู้สื่อข่าวติดตามทำข่าว

สำหรับความผิดมาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทางด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งกำชับพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และการแจ้งข้อกล่าวหาโดยใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ และให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาตามสิทธิต่างๆ อันพึงได้รับตามกฎหมายต่อไปแล้ว กรณีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เสนอไปยังตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี ขอให้พิจารณาเพิกถอนวีซ่าต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน