(29 มี.ค.67) เวลา 11.00 น.พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่นพ.ต.ท.วิโรจน์ ภูมิเพชรฤาชา รอง ผกก.สส.ฯพ.ต.ท.ธีรภัทร์ วงศ์วิลาศ สว.สส.ฯร.ต.อ.สุวัฒน์ สามหาดไทย รอง สว.สส.ฯเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) NT ขอนแก่น ร่วมแถลงข่าว“จับกุมคนร้ายตะเวนลักสายเคเบิลอุปกรณ์เชื่อมสัญญานอินเทอร์เน็ต“ โดยเมื่อวันที่ (26 มี.ค.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่นได้รับแจ้งเหตุว่าได้มีเหตุลักทรัพย์ตัดสายเคเบิล ของบริษัททีโอที บริเวณหน้าร้านเฟรมเรคคอร์ด ถนนหน้าเมืองตัดถนนพิมพสุต
ต่อมาโดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น, พ.ต.ท.วิโรจน์ ภูมเพชรฤาชา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ธีรภัทร์ วงศ์วิลาศ สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่น ร.ต.อ.สุวัฒน์ สามหาดไทย รอง.สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่นชุดปฏิบัติการที่ 3 เร่งทำการแกะรอยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการสืบสวนติดตามทราบว่าผู้ต้องหาเป็นชายวัยกลางคน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม สวมหมวกกันน๊อคเต็มใบสีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นฟีโน่ สีดำ-ชมพูไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิดเรื่อยมาจนพบบุคคลลักษณะดังกล่าวขับขี่รถจักรยานยนต์พร้อมด้วยของกลางหลบหนีมุ่งหน้าตามถนนกลางเมือง จนถึงหน้าบ้านเลขที่ 250/13 ม.5 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น
ต่อมาวันที่ 28 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการขอหมายค้นและได้นำหมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 117/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 เพื่อค้นที่บ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงพบนางถาวรฯ อายุ 65 ปี แสดงตัวเป็นผู้ครอบครอง/เจ้าของบ้าน
ร.ต.อ.สุวัฒน์ สามหาดไทย รอง สว.สส.ฯ จึงได้แสดงหมายค้น พร้อมทั้งอ่านและอธิบายให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจดีแล้วจึงนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบอุปกรณ์แผงเชื่อมสัญญานตู้พักกลางทาง (Terminal Box)จำนวน 246 ตัว, อุปกรณ์เชื่อมสัญญาน(โคเน่) ขนาด 25 คู่ จำนวน 13 ตัว, อุปกรณ์เชื่อมสัญญาน(โคเน่) ขนาด 10 คู่ จำนวน 25 ตัว วางอยู่บริเวณ โรงจอดรถ ของบ้านดังกล่าว
จากการสอบถามนายศุภชัยฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหารับว่า อุปกรณ์ดังกล่าวตนได้ลักมาจากหน้าร้านเฟรมเรคคอร์ด แยกพิมพสุตตัดหน้าเมือง เมื่อวันที่ 26 มี.ค.67 และใช้รถจักรยานยนต์ของตนเองขับขี่ไปก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า”ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯหรือรับของโจร”
ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจากการสอบถามสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุของผู้ต้องหา ได้รับว่าปัจจุบันตกงานและยังไม่มีงานทำ จึงได้ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาเคยเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2558 และพบว่าเคยถูกจับดำเนินคดีใน “ข้อหา ลักทรัพย์ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ(มหาชน)จำนวนหลายครั้ง เมื่อปี 2565 ในท้องที่ สภ.บ้านเป็ด ที่ผ่านมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
