โจ๋วัย 16 ปี ซิ่งรถจักรยานยนต์ประลองความเร็วแข่งกับเพื่อน พุ่งชนท้ายรถเก๋งเสียหาย ก่อนจะล้มแล้วถูกรถกระบะที่ขับตามหลังมาทับหัวซ้ำดับคาที่ เหตุเกิด บนถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตรที่ 9 ขาออก ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 30 มีนาคม 2567 พ.ต.ท.สถามน ประเสริฐสุวรรณ สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋ง ถูกรถกระบะที่ตามหลังมาทับเข้าที่ศีรษะเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตรที่ 9 ขาออก ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลบางพลี และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ พบ ด.ช.ปิ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดใน กะโหลกแตก เศษมันสมองกระจายเกลื่อนพื้นถนน อยู่ในสภาพคร่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่กลางถนน ด้านหน้าพังยับเยิน เจ้าหน้าที่ต้องนำผ้าขาวและกระดาษมาวางปิดเพื่อป้องกันภาพอุจาดตา ห่างกันออกไปราว 300 เมตร พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเอนกประสงค์ ยี่ห้อ โตโยต้า อแวนซ่า สีบรอนซ์ ทะเบียน 2 กข 1866 กรุงเทพมหานคร จอดชิดซ้ายในสภาพด้านหลังรถพังยับเยิน จากการถูกชน โดยมี น.ส.ปิยานัส อยู่เย็น อายุ 44 ปี เป็นคนขับ ยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่ข้างรถ
จากการสอบถาม นายเอ (นามสมมุติ) เพื่อนของผู้ตาย อายุ 15 ปี บอกว่า ตนเองและกลุ่มเพื่อนๆหลายคันพากันออกมาขับรถเล่นบนถนนดังกล่าวระหว่างทางมาถึงที่เกิดเหตุขับออกตัวกันออกมาทั้งหมด 4 คัน รวมถึงคันที่คนตายขับ ซึ่งตนเองขับนำหน้ามาจนไปเลี้ยวกลับรถข้างหน้าแต่ไม่เห็นรถของผู้ตายตามหลังมาพอวนกลับมาพบว่าเกิดอุบัติเหตุแล้ว
ขณะที่ น.ส.ปิยานัส ซึ่งเป็นคนขับขี่รถเก๋ง เล่าว่า ตนเองก็ขับมาตามถนนปกติในเลนกลาง แล้วปรากฏว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์คู่กรณีแข่งกันตามหลังมาจนมาพุ่งชนท้ายรถของตนเองอย่างแรง พอตนตั้งสติได้รีบจอดรถแล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนรถที่ทับหัวคนขับนั้นเบื้องต้นทราบเพียงว่ารถกระบะแต่ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนและสี
ขณะที่ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุออกมาระบุว่าเส้นทางในจุดดังกล่าวระหว่างพบว่ามักจะมีกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวนมากมารวมกลุ่มแข่งขันประลองความเร็วกันเป็นประจำ พอแจ้งตำรวจมาเปิดไฟไซเรนไล่ก็ขับหนีหายกันไปพอตำรวจไปก็พากันวนกลับมาแข่งอีก ชาวบ้านจึงฝากสื่อไปยังตำรวจให้เข้มงวดและป้องกันการแข่งขันรถในทางให้กับชาวบ้านเพื่อลดความเดือดร้อนและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทาง
