สองหนุ่มบางพลี ถูกเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์พาพวกรวม 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามประกบก่อนจะปาดหน้าให้จอดรถ แล้วเข้าไปรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย ล่าสุดยังรักษาตัวที่ห้อง ICU ส่วนอีกรายถูกชกแต่หนีทัน เหตุเกิดภายในซอยบางปลา 2 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อช่วยบ่าย วันที่ 30 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าว ได้รับเรื่องร้องเรียน จาก นาย รณภพ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นบิดา ของ นายกิตติพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี รวมถึง นาย ดำรงศ์ศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคน ว่า นายกิตติพัฒน์ และ นายดำรงศักดิ์ ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริรุมทำร้าย นายกิตติพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส แพทย์ระบุว่าสมองบวมและมีเลือดคั่งในสมอง ยังรักษาตัวที่ห้อง ICU อยากให้เป็นกระบอกเสียงและฝากไปยังตำรวจให้ช่วยติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยภาพภาพจากกล้องวงจรปิดภายในซอยบางปลา 2 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ในขณะที่มี นาย กิตติพัฒน์ คนที่สวมเสื้อลาย ขับขี่รถมาตามถนนแล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังกันมาทั้งหมด 3 คน คันละ 1 คน พอมาถึงที่เกิดเหตุทั้งหมดได้ปาดหน้ารถของ นาย กิตติพัฒน์ ให้จอด ก่อนที่ นาย นาย อายุ 27 ปี ชายเสื้อดำ ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ในซอยบางปลาซอย 2 ได้จอดรถแล้วลงมาชกต่อยและรุมทำร้ายร่างกายนาย กิตติพัฒน์ จนนอนแน่นิ่งกองกับพื้น ซึ่งจากวงจรปิดจะเห็นว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งสามคนพากันรุมเตะและกระทืบเข้าที่ศีรษะและใบหน้าของ นาย กิตติพัฒน์ อย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะพากันหลบหนีไป เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืนครึ่ง วันที่ 30 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
นาย ดำรงศ์ศักดิ์ อายุ 25 ปี เพื่อนของ นายกิตติพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูก นาย นาย พาเพื่อนรุมชกต่อย แต่เจ้าตัววิ่งหนีได้ทัน นายดำรงศ์ศักดิ์ บอกว่า ตนเองและแฟนสาวรวมถึงนายกิตติพัฒน์พากันออกมาหาซื้ออะไรทานภายในซอยดังกล่าว พอขับรถผ่านหน้าอู่ซ่อมรถของ นาย นาย ก็พบว่า นาย นาย พาเพื่อนในร้าน ขับขี่ จยย.ตามมาประกบด้านหลัง ก่อนจะปาดหน้าให้จอดและลงมาทำร้ายร่างกาย จนต้องบิดรถหนีตาย ส่วนนาย กิตติพัฒน์ ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุขับรถตามจนไปทันและรุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ส่วนสาเหตุตนเองก็ยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เพราะที่ผ่านมาก็รู้จักกับนาย นาย และยังเคยมาซื้อของมาใช้บริการที่ร้านเขาอยู่เลย หลังเกิดเหตุ นาย นาย ไม่ได้หนีไปไหน กลับมานั่งชิวที่ร้านซ่อมรถตามปกติ ตนเองไปแจ้งความตำรวจและบอกตำรวจให้มาจับตัว นาย นาย แต่ตำรวจบอกว่าต้องให้รอถึงวันจันทร์ก่อนจะนัดมาสอบปากคำแล้วไปจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งวันนี้กลุ่มเพื่อนของตนเองและบิดาของนายกิตติพัฒน์ ต้องมาหากล้องวงจรปิดกันเอง และมาตามหานาย นาย ที่อู่ซ่อมรถแต่ก็ไม่พบตัวแล้ว
ขณะที่ นาย รณภพ บิดา ของ นายกิตติพัฒน์ บอกว่า ตนเองพอมาเห็นคลิปวงจรปิดที่ลูกถูกกระทำนั้น ยอมรับว่ารับไม่ได้กับเรื่องดังกล่าว และถือว่าทำเกิดกว่าเหตุ ทำไมต้องรุมเตะที่หัวและใบหน้าถึงขนาดนั้น ส่วนเขาจะมีปัญหาอะไรกันมาก่อนหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะลูกไม่เคยบอก ที่ผ่านมา กลางวันลูกก็จะคอยช่วยงานทำปลาสลิดที่บ้านตามปกติ จึงอยากฝากตำรวจให้ช่วยตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
ขณะที่ นางสาว พร แฟนสาว ของ นาย นาย บอกว่า ขณะเกิดเรื่องตนเองไม่ทราบ เพิ่งมาทราบเรื่องจากฝั่งของพ่อนายกิตติพัฒน์ ที่นำคลิปวงจรปิดมาให้ดู ยอมรับว่าตกใจที่แฟนไปก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งทั้งสองฝ่ายรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน ส่วนสาเหตุอาจมาจากที่ก่อหน้านี้ เคยมีปัญหากัน เนื่องจากตนเองเคยอยู่ในกลุ่มของ นายกิตติพัฒน์ แล้วมีปัญหากันจนแยกตัวออกมาจึงอาจทำให้แฟนไม่พอใจเรื่องดังกล่าวหรือไม่นั้น ตนเองก็ไม่แน่ใจ ซึ่งปกติแล้วตนเองกับแฟนไม่ค่อยสุงสิงพูดคุยกันสักเท่าไหร่ พอเกิดเหตุพยามติดต่อหาแฟนแล้วแต่ติดต่อไม่ได้
