ฉะเชิงเทรา – พบโครงกระดูกมนุษย์กองทิ้งเชิงเขาจันทร์ พร้อม กกน.สตรีสวมติดคาเชิงกรานใกล้พื้นที่แนวตะเข็บรอยต่อ จ.ปราจีนบุรี นานนับปี ทำชาวบ้านหวั่นถูกอุ้มข่มขืนฆ่าทิ้งอำพราง เบื้องต้น จนท.ตำรวจ แจ้งพิสูจน์หลักฐานเก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุไว้แล้ว ก่อนรวบรวมเศษซากทั้งหมดส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาร่องรอยชี้ชัดสาเหตุการตายอีกครั้ง
วันที่ 3 มี.ค.67 เวลา 16.30 น. ร.ต.ท.ปิยะณัฐ บุญจันทร์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.วังคู จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในป่าเชิงเขาหมู่บ้านเขาจันทร์ พื้นที่ ม.9 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ลักษณะคล้ายถูกอุ้มฆ่าแล้วนำศพมาทิ้งไว้เพื่ออำพรางคดีจากพื้นที่อื่น จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวเลาะแนวตะเข็บรอยต่อติดกับบ้านหนองสะแกใน ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สภาพเป็นป่าละเมาะสลับกับป่าไผ่ไต่ระดับขึ้นสู่เนินเขา โดยเขาลูกดังกล่าวเป็นเขารูปทรงเกือบเป็นวงกลมคล้ายกับลูกจันทร์ หรือทรงกระเพาะหมู สูงประมาณ 150 เมตร มีถนนลูกรังเป็นถนนวงแหวนล้อมรอบ โดยจุดพบกองกระดูกอยู่ลึกเข้าไปยังในซอยแยกจากถนนวงแหวนด้านหัวมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขาลูกนี้ปีระมาณ 50 เมตร และอยู่ห่างจากริมถนนซอยแยกเข้าไปในป่าละเมาะอีกประมาณ 20 เมตร
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของสตรี โดยพบว่ายังคงมีกางเกงในลายลูกไม้สีขาวแต่เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาจนมองดูคล้ายสีเทา สวมติดคาอยู่กับกระดูกเชิงกรานเพียง 1 ชิ้น แต่ไม่พบเครื่องนุ่งห่มชนิดอื่นอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยชิ้นส่วนกระดูกส่วนใหญ่อยู่ในสภาพกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ คล้ายกับถูกสัตว์ลากออกไปแทะเล็ม ซึ่งมีทั้งกะโหลกศีรษะ กระดูกท่อนแขนขา กระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกกรามล่างซึ่งเหลือเพียงฟันกรามบดซ้ายด้านในสุดเพียง 1 ชี่
โดยมีกองกระดูกซี่โครงเท่านั้น ที่ยังอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ และมีกระดูกท่อนแขนและขาบางส่วนหายไป จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังคู จึงได้กันพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุไว้ ก่อนที่จะแจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จ.ฉะเชิงเทรา ให้เดินทางมาตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุไว้
หลังเจ้าหน้าที่ พฐ.เดินทางมาถึงยังในบริเวณที่เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ได้ทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมตรวจวัดระยะห่างของโครงกระดูกที่พบ และรวมรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงได้ให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม จุดทุ่งพระยา ทำการเก็บรวบรวมชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ที่พบทั้งหมด ส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้งยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ
โดยคาดการณ์ว่าสภาพโครงกระดูกที่พบในครั้งนี้ น่าจะเสียชีวิตมาแล้วเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันเชื่อว่า กองกระดูกหญิงสาวที่พบในครั้งนี้ น่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้ในป่าเพื่ออำพรางคดี หรืออาจถูกลวงมาข่มขืนแล้วฆ่า เนื่องจากไม่มีคนในหมู่บ้านหายตัวไปจากหมู่บ้าน
