X

ชาวแม่รำพึงเฮ!! ชนะคดีนายทุนฮุบป่า ศรีสุวรรณ เดินหน้าเอาผิด จนท.รัฐ

ประจวบฯ : ชาวแม่รำพึง อ.บางสะพาน เฮ!! ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษา ให้ชนะคดี ‘นายทุนฮุบป่าพรุแม่รำพึง’ หลังต่อสู้มายาวนานกว่า 16 ปี ‘ศรีสุวรรณ’ เดินหน้าร้องต่อ เตรียมยื่น ป.ป.ช. เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์นายทุน

วันที่ 4 เมษษยน 2567 ที่ศาลปกครองสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาคดี ที่กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ป่าพรุแม่รำพึง 18 แปลง ให้เอกชน โดยที่หน่วยงานรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ออกมาปกป้อง คุ้มครองดูแลที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อันถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ และละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ทางสมาคมฯ และชาวแม่รำพึง จึงต้องลุกกันขึ้นมาปกป้องป่าพรุแม่นำพึงแทน

คดีนี้ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและชาวบ้านแม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้นำความมาฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ และหน่วยงานของรัฐ รวม 11 ราย ต่อศาลปกครองกลาง ตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่มีกลุ่มนายทุนโรงงานเหล็กพยายามจะเข้ามากว๊านซื้อที่ดินในป่าพรุแม่รำพึง เพื่อนำไปก่อสร้างและขยายโรงงานเหล็ก จนกระทั่งศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ปี 2555 มีคำพิพากษายกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า ที่ดินพิพาททั้ง 18 แปลง มิได้อยู่ในแนวเขตนอกป่าสงวนแห่งชาติ และป่าชายเลน ซึ่งมีชาวบ้านยึดถือครอบครองทำประโยชน์แล้ว ขัดแย้งต่อข้อเท็จจริงที่พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าพรุ มีต้นแสมและต้นไม้นานาพันธุ์ขึ้นเต็มพื้นที่ จะเป็นพื้นที่ ที่มีการทำประโยชน์ไปได้อย่างไร ทางสมาคมฯและชาวบ้านผู้ฟ้องคดี จึงได้ยื่นอุทธรณ์สู้คดีไปยังศาลปกครองสูงสุด

กระทั่งในวันนี้ ศาลปกครองกลางได้นัดอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ปรากฎว่า ศาลปกครองสูงสุดได้พลิกคำพิพากษาของศาลปกครองกลางจากให้ยกฟ้องเป็นว่า หน่วยงานของรัฐผู้ถูกฟ้องคดี ใช้อำนาจในการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากระวางจากภาพถ่ายทางอากาศ (แผนที่ทหาร) ในปี 2519 ปี 2538 และปี 2545 ไม่พบว่ามีการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท บางแปลงอาจมีร่องรอยการทำประโยชน์อยู่บ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. ของกรมที่ดิน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษาสั่งให้เพิกถอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 1920, 1921, 1980, 1981, 664, 1179 และ ให้เพิกถอน น.ส.3 เลขที่ 1 และ น.ส.3 ก บางส่วนที่เป็นป่าพรุ เลขที่ 1739, 1173, 1174, 1175, 1829, 1734 และ 1738 เสีย โดยให้มีผลย้อนหลังไป นับแต่วันที่ออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว

ผลของคำพิพากษาดังกล่าวถือว่าเป็นที่สุดแล้ว หลังจากที่สมาคมฯและชาวแม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ นำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองโดยใช้ระยะเวลาการต่อสู้คดีมาอย่างยาวนานกว่า 16 ปี หลังจากนี้ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องนำคำพิพากษาไปบังคับคดีต่อไป และสมาคมฯ จะนำคำพิพากษานี้ไปยื่นให้ ป.ป.ช.ใช้สอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วยเช่นกัน นายศรีสุวรรณ กล่าว

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แพลตฟอร์มชุมชนข่าวสาร 77 จังหวัด พบกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับข่าวท้องถิ่นทั่วประเทศ