ผู้ประกอบท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง และ กระบี่ นำผู้สื่อข่าวท่องเที่ยวทะเลตรัง และ เกาะไหง หมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ โดยเกาะไหงอยู่ใกล้กับเกาะแก่งต่างๆของจังหวัดตรัง เช่น เกาะม้า และ เกาะเชือก ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังที่สวยงามตรัง โดยใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง เพียง 25 นาที ด้วยการเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ท และ ใช้เวลา 45 นาที สำหรับการเดินทางโดยเรือหางยาว
สำหรับเกาะไหงมีความสวยงามอย่างมาก น้ำทะเลใสราวกระจก หาดทรายสีขาวละเอียด ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และเป็นชายหาดที่สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากเป็นชายทะเลที่ไม่ลาดชัน น้ำทะเลไล่ระดับจากน้ำตื้นไปยังระดับความลึก
และอีกหนึ่งไฮไลท์คือเกาะไหง เป็นแหล่งอาศัยของนกเงือกนับร้อยๆ ตัว ซึ่งเป็นนกประจำถิ่นที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นโดยทั่วไป เพราะพวกมันจะบินมากินลูกผลของต้นไม้ที่อยู่บนเกาะแห่งนี้ รวมทั้งผักผลไม้ที่บรรดารีสอร์ทนำมาวางไว้ให้พวกมัน โดยจะพบเห็นมากในช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็น ซึ่งผู้ประกอบการรีสอร์ทบนเกาะไหงได้สร้างบ้านให้นกเงือกได้อยู่บนต้นไม้ โดยนกเงือกจะอาศัยในบ้านเป็นคู่แบบผัวเดียว-เมียเดียว ไปตลอดอายุไขของมัน
อีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะไหง ต้องแวะไปชมความงาม และ ขอพรที่แหลมเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นหินขนาดใหญ่รูปร่างล้ายรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ยืนตระหง่านอยู่ที่ริมภูเขาและเพิงถ้ำขนาดเล็ก ซึ่งชาวเรือที่ผ่านจุดนี้ไม่ลืมที่จะขอพรให้โชคดี
โดยนายจักษณ์ญพงศ์ อ๋องเจริญกฤช กรรมการผู้จัดการทับวารินทร์รีสอร์ท และ มายาเลบีชรีสอร์ท กล่าวว่า เสน่ห์ของเกาะไหงคือปะการังที่มีความสมบูรณ์ สามารถดำน้ำดูปะการังได้รอบเกาะ ทั้งปะการังน้ำตื่นและปะการังน้ำลึก และมีนกเงือกฝูงใหญ่อาศัยอยู่นับร้อยๆตัว เพราะเกาะไหงเป็นที่อุดมสมบูรณ์ ตอนนี้หลายๆ รีสอร์ทบนเกาะไหงได้ร่วมกันอนุรักษ์นกเงือก นำอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ที่เหลือจากการปรุงอาหารมาให้พวกมัน มีการทำบ้านไม้สำหรับนกเงือก ขนาดความสูง 90-100 เซ็นติเมตร ความลึก 60-70 เซ็นติเมตร วางไว้คอยให้นกเงือกเข้ามาอาศัย เพราะนกเงือกที่นี่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งนกเงือกจะเข้ามาอาศัยในบ้านเป็นคู่ บางคู่ก็อยู่กันจนออกลูก นกเงือกอยู่ในระดับชั้นบนของระบบนิเวศน์ มีนิสัยรักเดียวใจเดียว นกเงือกตัวผู้จะออกไปหาอาหาร นกเงือกจะรอจนตัวผู้กลับรัง ถ้าตัวผู้ไม่กลับมา นกตัวเมียจะคอยอยู่ในรังจนตัวตาย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาชมความงามของนกเงือกสามารถชมได้ในช่วงเช้า และ ช่วงเย็น เพราะพวกมันจะออกมาหากินในช่วงนี้ ทั้งกินผลไม้และแมลง ซึ่งพบเห็นได้ตลอดทั้งปี ยิ่งที่ช่วงลูกไทรบนเกาะสุก จะพบเห็นนกเงือกจำนวนมากและถี่กว่าปกติ นอกจากนกเงือกที่เกาะไหงยังมีนกอาศัยอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น นกเขาใหญ่ นกบินหลาดง เป็นต้น เหตุผลที่ทำให้บนเกาะไหงมีนกเหงือกและนกอีกหลายชนิด เนื่องจากบนเกาะไม่มีชุมชน มีรีสอร์ทจำนวน 10 แห่ง เกาะมีเนื้อที่ 2,500 ไร่ มีพื้นที่ป่าและแหล่งน้ำจืด มีน้ำจืดตลอดทั้งปี
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยใช้การเดินทางจากท่าเรือปากเมง จ.ตรัง และ จากเกาะลันตา จ.กระบี่ อยากให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยว เพราะเกาะไหงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก แต่จะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายจักษณ์ญพงศ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้หากใครยังไม่มีโปรแกรมท่องเที่ยว อยากให้ทุกคนมาเที่ยวเกาะไหง ได้ดูนกเงือก ได้ดูทะเลสวยๆ และที่นี่ยังมีแหลมเจ้าแม่กวนอิมซึ่งชาวเรือที่แล่นเรือผ่านมักจะอธิษฐานขอพรให้มีโชคดี ที่สำคัญเกาะไหงสามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี ไม่มีช่วงปิดเกาะ แม้ในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมแรงก็สามารถท่องเที่ยวได้ เพราะเกาะไหงหันหน้าเข้าฝั่งทางทิศตะวันออก ทำให้ในคล้ายแนวกันคลื่นจึงสามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงเย็นเดือนเมษายนหากมองไปทางเกาะม้า จ.ตรัง ซึ่งอยู่ใกล้กันก็จะเห็นเป็นเกาะม้าสีทอง เนื่องจากแสงแดดกระทบทำให้เกิดสีสันแปลกตาสวยงามมากๆ
