พิษณุโลกก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า ด้วยศักยภาพของเมืองสี่แยกอินโดจีน ความหลากหลายของพื้นที่ชุมชนเมือง ทั้งสายน้ำ ผืนนา ภูเขา และอดีตอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เมืองเก่าที่มีเรื่องราวซึ่งเป็นฐานรากศูนย์รวมจิตใจที่เข้มแข็ง
“ผมภูมิใจที่เกิด โต และมีโอกาสได้ทำงานที่โรงทอผ้าเมืองพิดโลกที่เคยรุ่งเรือง แม้ปัจจุบันถูกได้ปิดตัวไปนานด้วยพิษทางเศรษฐกิจเมื่อปี40 แต่ความทรงจำของผมและกลุ่มผู้ใช้แรงงานในชุมชนเมืองพิดโลกเข้าใจถึงความยากลำบากและความภูมิใจกับงานและอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ผมภูมิใจที่มีโอกาสได้ใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากรั้วจามจุรีก่อเกิดประโยชน์ต่อโรงงานทอผ้า ในฐานะโรงงานทอผ้ารัฐวิสาหกิจ ที่คนรุ่นผม เข้าใจได้ดีสร้างงาน สร้างอาชีพและมีรายได้ให้กับพี่น้องเมืองพิษณุโลก แม้วันนี้เหลือเพียงอดีตโรงงานทอผ้าเก่า แต่เป็นอดีตของวิถีผู้คนเมืองพิดโลกที่ภาคภูมิใจกับการพึงพาตนเอง และเมื่อผมมีโอกาสได้ทำหน้าที่ผู้นำในท้องถิ่นด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจโดยจนได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนติดต่อกันยาวนานถึง 3 สมัยซ้อนในพื้นที่อำเภอเมืองพิดโลก เหนือสิ่งอื่นใดผมได้ทำหน้าที่ลดความเหลื่อมล้ำในในสังคมเล็กๆของเมืองพิดโลกและผมจะเดินหน้าต่อเพื่อเปิดโอกาสให้กับเมืองและพี่น้องชาวพิดโลกของผม”
การให้สัมภาษณ์ย่างหนักแน่นของนายเศรษฐา กิตติจารุรักษ์ อดีตสมาชิกสภาจังหวัดเขตอำเภอเมืองพิษณุโลกในความมุ่งมั่นเพื่อก้าวสู่สนามการเมืองระดับชาติในครั้งนี้
โดยย้ำอย่างน่าสนใจว่า พิษณุโลกก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า เกี่ยวเนื่องด้วยศักยภาพสำคัญของเมืองสี่แยกอินโดจีน มีความหลากหลายเชิงพื้นที่ทั้งชุมชนเมือง สายน้ำ ผืนนา ภูเขา และอดีตอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เมืองเก่าที่มีเรื่องราวซึ่งเป็นฐานรากศูนย์รวมจิตใจที่เข้มแข็ง ตลอดจนเครือข่ายภาคประชาชนหลากหลายแต่งดงามของสังคมการอยู่ร่วมกัน ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เมืองแห่งนี้พัฒนาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีก้าวหน้าแบบอยั่งยืน
และด้วยจุดเด่นของเมืองพิษณุโลกในฐานะจังหวัดหนึ่งในภาคกลางตอนบนของประเทศไทยด้วยประชากร 863,404 คน ด้วยพื้นที่ 10,815.854 ตารางกิโลเมตร 9 อำเภอ มีเทศบาลนครพิษณุโลกเป็นเขตเมืองศูนย์กลางของจังหวัดและเป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับแขวงไชยบุรี ประเทศลาวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเดิมเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมา ซึ่งตัวเมืองอยู่ห่างจากที่ตั้งเมืองปัจจุบันลงไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร จึงเรียกว่า “เมืองสองแคว” ที่เรียกเช่นนี้ เพราะตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย นี่คือเสน่ห์แห่งสายน้ำ คือ แม่น้ำน่าน กับแม่น้ำแควน้อย ซึงปัจจุบันแม่น้ำแควน้อยเปลี่ยนทางเดินออกห่างจากตัวเมืองไปร่วม 10 กิโลเมตรนั่นเอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: