ตำรวจบางบางแก้วตามรวบโจรแสบเลียนแบบหนังฮอลลีวูดตระเวณก่อเหตุลักทรัพย์ ตรวจสอบประวัติพบเคยถูกดำเนินคดีมาหลายครั้ง ล่าสุดอาศัยช่วงวันหยุดสงกรานต์หนีกลับบ้านสุดท้ายไม่รอดถูกตามจับกุมตัว
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 เมษายน 2567 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งล่าตัวคนร้ายที่ไปตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน สร้างความเสียหายและความเดือนร้อนให้กับผู้เสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของสภ.บางแก้ว นำโดย พ.ต.ท. ชาญวุฒิ เทียมมงคล รองผกก.สส.สภ.บางแก้ว พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ร่วมมือกับ กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 4 ไปติดตามจับกุมตัว นายอัฐพล(หรือตี๋) สุระอามาตย์ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดมหาสารคาม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 296/2567 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2567 ในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยการทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยผ่านสิ่งเช่นนั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นใดเพื่อไม่ให้จำหน้าได้และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้คาบ้านพักหลังหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นห้องเช่าที่ นายตี๋ หนีไปกบดานหลังจากรตระเวนก่อเหตุแล้วอาศัยช่วงวันหยุดสงกรานต์ เดินทางกลับ ซึ่งจับกุมได้ช่วงเย็นของวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพต่อหลักฐานที่ปรากฏและตามหมายจับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ตำรวจจึงควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.บาวเเก้ว
ข่าวน่าสนใจ:
พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยกับทีมข่าวเราว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายรายหนึ่งเดินทางมาแจ้งความว่าถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนและไม่ทราบตัว งัดหน้าต่างและประตูห้องพักของบ้านพักช่วงกลางวันแสกๆ ขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้าน ได้ทรัพย์ทรัพย์สินไปหลายรายการ ทั้งนาฬิการหรู แหวนเพชรแต่งงาน สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ แหวนทอง เงินสด เล่มทะเบียนรถยนต์ และยังถอดกล้องวงจรปิดภายในบ้านและรอบบ้านของผู้เสียหายไปทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 150,000 บาท
หลังเกิดเหตุผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด จึงสั่งการกำชับให้เร่งสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นภัยสังคมและยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหาย ตนเองจึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งหาเบาะแสของคนร้ายจนกระทั้งไปพบเบาะแส ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางแก้ว ได้ดำเนินตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชายลักษณะสวมหมวกแก๊ปสีดำ สวมแมสก์สีดำปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีกรมท่า สะพายกระเป๋าเป้สีเทา สวมกางขายาวสีดำ และสวมรองเท้าผ้าใบ Vans สีขาวดำขณะอยู่ในที่เกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ทำการสืบสวนติดตามคนร้ายโดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนและหลังเกิดเหตุ พบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้เดินทางมาจากซอยลาดพร้าว 128/2 โดยเดินทางด้วยรถเมล์สาธารณะสาย 27 มาลงที่บริเวณหน้าเดอะมอลล์บางกะปิ จากนั้นได้เดินทางต่อด้วยรถตู้ ขสมก.สายบางกะปิ -ปากน้ำ มายังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีนครินทร์ จากนั้นได้เดินทางต่อด้วยรถสองแถวสาธารณะโดยสับเปลี่ยน รถสองแถวจำนวน 3 คัน แล้วจึงเดินไปยังที่เกิดเหตุ โดยหลังจากก่อเหตุคนร้ายได้เดินเท้าระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นได้โดยสารด้วยรถจักรยานยนต์รับจ้างมาลงบริเวณปากซอยหมู่บ้านบางพลีนิเวศน์ แล้วโดยสารด้วยรถแท็กซี่มาลงบริเวณสะพานลอยปากซอยโรงเรียนราชวินิจบางแก้วจากนั้นได้โดยสารรถแท็กซี่อีกคันไปลงบริเวณวัดศรีเอี่ยม แล้วขึ้นโดยสารรถเมล์โดยสารสาย 145 ไปลงบริเวณหน้าเดอะมอลล์บางกะปิและจากนั้นได้โดยสารรถแท็กซี่ไปยังที่พัก บีไลฟ์อพาร์ทเมนท์ ภายในซอยลาดพร้าว 128/2 โดยระหว่างเดินทางคนร้ายได้สวมหมวกและแมสก์ปกปิดใบหน้าตลอดเวลา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ รายนี้ คือ นายอัฐพล(หรือตี๋) สุระอามาตย์ และต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั้งวันที่ 18 มีนาคม 2567 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายอัฐพล(หรือตี๋) พักอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.ภ.4 ทำการจับกุม นายอัฐพล(หรือตี๋)
จากการสอบถามนายอัฐพล(หรือตี๋) ให้การรับว่าตนได้เข้าไปทำการก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านดังกล่าวจริง โดยทรัพย์สินที่ได้มาตนนำไปขายแล้วนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ ส่วนสาเหตุที่ใช้รถสาธารณะและสับเปลี่ยนรถหลายคันก่อนและหลังก่อเหตุเนื่องจากต้องการให้เป็นการยากในการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้เลียนแบบมาจากหนังฮอลลีวูดแนวโจรกรรม
โดยนายอัฐพล(หรือตี๋) ได้ ให้การเพิ่มเติมว่าตนได้เคยเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.บางแก้ว ได้ลักทรัพย์ บ้านเลขที่ 38/79 หมู่บ้านซิตี้เซนท์ ม.13 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ได้ทรัพย์สินไป 1.แหวนเพชร จำนวน 3 วง ราคารวมประมาณ 65,000 บาท / 2.สร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง 1 เส้น ราคาประมาณ 15,000 บาท / 3.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ แอปเปิ้ลวอส 1 เรือน ราคาประมาณ 20,000 บาท / 4.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ TAG 2 เรือน ราคา 5,000 และ 20,000 บาท / 5.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ บดูเบอร์รี่ 1 เรือน ราคาประมาณ 4,000 บาท ซึ่งเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางแก้วได้สืบสวนติดตามมาโดยตลอด และให้การรับว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ได้เข้าไปทำการลักทรัพย์ในพื้นที่ มีนบุรีได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 10 บาทและก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกหลายพื้นที่ โดยตนจำสถานที่ก่อเหตุและวันเวลาไม่ได้ จากตรวจสอบประวัติอาชญากรรมนายอัฐพล(หรือตี๋) พบมีประวัติเคยกระทำผิด ดังนี้ 1.ข้อหา “ทำอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต”เมื่อปี 2551 ที่ สภ.โกสุมพิสัย ภ.จว.มหาสารคาม ภ.4 / 2.ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ” เมื่อปี 2557 ที่ สน.นิมิตรใหม่ สถานะ รอออกหมายจับ / 3.ข้อหา “ตัวการในข้อหาลักทรัพย์”เมื่อปี 2561 ที่ สน.ฉลองกรุง สถานะหมายจับมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ฝ่ายสืบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุงเพื่ออายัดตัวต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: