กรุงเทพฯ – มูลนิธิเพชรเกษม ขอโทษสังคม-ยอมรับผิด พร้อมสั่งพักงาน 7 วัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยซิ่งรถย้อนศร แจ้งความเอาผิดคนโพสต์คลิป-เกรียนคีย์บอร์ด ทำให้เสื่อมเสีย ถามกลับกู้ภัยอีกฝั่ง ทำไมไม่ลงมาช่วยคนเจ็บ ด้านตำรวจ ระบุ กฎหมายอนุญาตรถฉุกเฉินเดินรถสวนทาง-ฝ่าไฟจราจรได้
วันที่ 22 เมษายน 2567 กรณีการเผยแพร่คลิปดัง รถกู้ภัยมูลนิธิ 2 แห่ง ขับย้อนศรรีบไปช่วยผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยมีการขับแซงกัน และมีอาสากู้ภัยคันที่แซงขึ้นหน้า รีบร้อนลงจากรถ จนเสียหลัก ถูกรถยนต์ที่ขับสวนมาเกี่ยวกระเป๋ากู้ภัย จนล้มลงได้รับบาดเจ็บปากแตก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน ย่านรามอินทรา
วันนี้ ที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน นายจักรพันธุ์ สร้อยพวง เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม ซึ่งเป็นคนขับรถคันที่แซง และถูกกู้ภัยคันที่ขับตามหลังถ่ายคลิปไว้ ก่อนถูกนำไปเผยแพร่ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีผู้ที่นำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ลงในสื่อโซเชียล โดยมีคำบรรยาย ลักษณะหัวเราะเยาะแบบสะใจ ทำให้ประชาชนและสังคม รุมโจมตีพวกตนเอง รวมถึงคนที่แสดงความเห็น (คอมเมนต์) กล่าวหาด่าทอโจมตีก็จะดำเนินคดีทั้งหมดด้วย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เนื่องจากเข้าลักษณะทำให้เสียหายและดูหมิ่นเหยียดหยาม
นายจักรพันธุ์ ยังย้อนถามรถกู้ภัยอีกคันหนึ่งที่ถ่ายคลิป ว่า ทำไมถึงไม่ลงมาช่วยผู้บาดเจ็บด้วยกัน แต่กลับหัวเราะเยาะพวกตนทำไม เพราะคนเจ็บที่อยู่ในที่เกิดเหตุมี 2 ราย กลับกัน หากกู้ภัยคันดังกล่าวเป็นผู้ที่ไปถึงผู้บาดเจ็บก่อน พวกตนเองก็จะลงไปช่วยอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาองค์กร หรือความไม่ถูกกันของมูลนิธิทั้งสอง แต่เป็นเรื่องของบุคคลมากกว่า
พร้อมชี้แจงสาเหตุการขับรถย้อนศรว่า เนื่องจากขับตามรถของอีกมูลนิธิ เพราะคิดว่าจุดเกิดเหตุน่าจะอยู่ไม่ไกล และเมื่อมีจังหวะที่รถคันหน้าติดรถที่ออกมาจากปากซอย จึงตัดสินใจขับเบี่ยงแซงออกไปในเลนที่มีประชาชนปิดกั้นถนนไว้ให้
อย่างไรก็ตาม อยากจะขอโทษประชาชน ที่ขับรถย้อนศร ทำให้เกิดอันตราย และขอยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจขับรถไปแย่งผู้บาดเจ็บ หวังเพียงแต่จะช่วยเท่านั้น
ยอมรับผิด สั่งพักงานคนขับ 7 วัน ติง กระบวนการอนุมัติรถกู้ภัยเข้าระบบ สพฉ.
นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี ประธานมูลนิธิเพชรเกษม กล่าวยอมรับผิดเรื่องการขับรถย้อนศรเช่นกัน ให้ว่าไปตามความผิด ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก จะเปรียบเทียบปรับ หรือว่ากล่าวตักเตือน อยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ ได้สั่งลงโทษผู้ที่ขับรถย้อนศร โดยงดการปฏิบัติหน้าที่ 7 วัน ให้เก็บธูปที่ศาลเจ้าแทน และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมขอนำความผิดพลาดนี้ไปปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด โดยจะนำเข้าที่ประชุมใหญ่ ครั้งต่อไปให้ประสาน สน.ในพื้นที่ก่อน และจะต้องเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่านี้
นายสหชาติ กล่าวด้วยว่า มูลนิธิเพชรเกษมก่อตั้งมาถึง 18 ปี มีความพร้อมและศักยภาพ ในการช่วยเหลือประชาชน และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ขอโอกาสให้ได้ปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่ผิด พร้อมติติงการขึ้นทะเบียนรถฉุกเฉิน ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และร้องขอความเป็นธรรม ไปถึงผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง
ตร.ชี้ กม.อนุญาต รถฉุกเฉินย้อนศรได้
พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รองผู้กำกับการสอบสวน สน.บางเขน เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งความไว้ เพื่อดำเนินการสอบสวนว่า มีความผิดตามที่ผู้เสียหายแจ้งความว่า นำคลิปไปโพสต์ในลักษณะหมิ่นประมาทใส่ความให้ได้รับความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อองค์กร หรือไม่ ถ้ามีความผิด จะเรียกผู้โพสต์มาแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท
ส่วนการฝ่าฝืน พ.ร.บ.จราจรทางบก จะต้องพิจารณาว่ามีเจตนาหรือไม่ เพราะกฎหมายกำหนดถึงความจำเป็นในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และรถฉุกเฉินสามารถหยุดรถในที่ห้ามจอด ขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร หรือฝ่าฝืนทิศทางการเดินรถได้
