ปราจีนบุรี – ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ขึ้นไปหาของป่า และหลงป่าเขาใหญ่นาน 9 วัน ไปโผล่พื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รอดชีวิตปาฏิหาริย์
เมื่อเวลา 17.55 น.วันที่ 22 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ปราจีนบุรี ได้มีรายงานสถานการณ์ตามที่เมื่อวันที่ 21 เม.ย.67 เวลา 09.00 น.นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้อำเภอประจันตคาม จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ค้นหาบุคคลสูญหาย อำเภอประจันตคาม เพื่อค้นหา นายนิคม เงื้อมผา ซึ่งสูญหายในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.67 นั้น ซึ่งวันที่ 22 เม.ย.67 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ปราจีนบุรี ได้รับรายงานจาก นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) และนายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง ระบุว่า ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายในป่าอนุรักษ์ พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จำนวน 1 คน เป็นเพศชาย ชื่อนายนิคม เงื้อมผา อายุ 57 ปี ราษฎรท้องที่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย.67 เวลา 09.00 น.ตั้งกองเฉพาะกิจที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ขญ.11 (คลองเพกา) ประชุมวางแผนร่วมกับหน่วยงานฝ่ายปกครอง สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี อบต.หนองแก้ว มณฑลทหารบกที่ 12 กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้านและเริ่มค้นหาผู้สูญหาย เวลา 10.00 น.
โดยเจ้าหน้าที่เดินทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใช้การเดินเท้าขึ้นเขาใหญ่ บริเวณเหวอีอ่ำ ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จนถึงเวลา 18.00 น.ขาดการติดต่อสื่อสาร เนื่องจากไม่พบสัญญาณโทรศัพท์ โดยวันจันทร์ที่ 22 เม.ย.67 เริ่มปฏิบัติการค้นหาเป็นวันที่ 2 ณ เวลา 11.00 น. ผลปรากฏ ยังไม่พบผู้สูญหาย จนกระทั่ง เวลา 12.20 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 10 ต.หนองแก้ว ว่าประชาชนในเขตตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี ได้นำรถยนต์มาส่ง นายนิคม เงื้อมผา ผู้สูญหาย ณ บ้านเนินหินตั้ง หมู่ที่ 10 ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้ นางมาละนี จินดารัตน์ หน.สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี นางวิภาวี แดงท่าขาม นายอำเภอประจันตคามและผู้แทน กอ.รมน.จังหวัดปราจีนบุรี ประสานองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแก้ว นำนายนิคม เงื้อมผา เข้ารับการตรวจสุขภาพ ที่ รพ.ประจันตคามและนำสิ่งของเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ ซึ่งหากตรวจพบไข้ป่า จะได้พักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลประจันตคาม ต่อไป
ล่าสุด ช่วงเวลา 21.25 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาพบ นายนิคม เงื้อมผา อายุ 57 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านเนินหินตั้ง หมู่ที่ 10 ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ที่ยังนอนรักษาอาการอ่อนล้า ที่อาคารผู้ป่วยใน รพ.ประจันตคาม โดยมีภรรยาเป็นผู้เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายนิคม เล่าว่า ขึ้นไปหาของป่าบนป่าเขาใหญ่เป็นครั้งแรก พร้อมเพื่อนบ้าน 3 คน ปกติจะไปหาในต่างประเทศ ที่พม่า ,มาเลเซีย, อินโดนิเซีย ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.67 ต่อมา เสบียงที่เตรียมไปหมดเพื่อน ๆ จึงพากันลง เหลือตนเองลำพัง จากสภาพป่าดงดิบเขาใหญ่ที่แตกต่างจากป่าต่างประเทศ ทำให้เกิดหลงป่า ในช่วงนั้น มีเหรียญเงินรัชกาลที่ 5 ด้านหลังทรงช้างสามเศียรเอราวัณ ที่เป็นสมบัติตกทอดมาจากบรรพบุรุษคล้องคอ จึงยกมือจรดศีรษะอธิษฐานให้เสด็จพ่อ ร.5 ปกปักษ์รักษาให้พ้นภัยจากนานาภัยทั้งสัตว์ป่า ,ผีป่า เดินมาพบคลองใสใหญ่ จึงอาศัยคลองเดินตามลงมา ผ่านโขดหินขนาดใหญ่มากมาย แต่พยายามให้อยู่ในที่โล่ง หนีสัตว์ป่า ที่มีทั้งช้างป่า กระทิง หมีป่า โดยเสบียงหมด มีแต่ไฟจุดให้ความร้อน–แสงในกลางคืน
นายนิคม บอกว่า ใช้การเอาชีวิตรอดโดยกินใบไม้ที่กินได้ ที่มีรสเปรี้ยว, กินผลไม้ป่า ส่วนน้ำ กินน้ำสะอาดในคลองพอปะทังให้เอาชีวิตรอด เวลากินใบไม้จะใช้ต้มให้สุก โดยต้มใส่ในกะละมังอลูมิเนียม ที่มีติดตัว 1 ใบ ตกช่วงกลางคืน ตั้งแต่ 17.00 น.หรือ 5 โมงเย็น จะจุดกองไฟให้อยู่ทั้งคืน ใช้แสงสว่างเป็นเพื่อน-ป้องกันอันตรายจากสัตว์ป่าและอาศัยความร้อนคลายหนาวเย็นบนเขา โดยในคืนที่ 2 ที่หลงป่า ได้ฝันเห็นเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นชายโบราณร่างกายกำยำ มาพร้อมบริวาร เจ้าพ่อ บอกว่า จะพาลงเขา ให้น้ำให้อาหาร ไม่ให้ตาย แต่เมื่อปลอดภัยแล้ว อย่าลืมมาแก้บนด้วยไก่ต้มทั้งตัว 1 ตัว พร้อมเหล้าขาว 1 ขวด บุหรี่ และเครื่องหมาก–พลู ด้วย และบอกเลขเด็ดให้ด้วย แต่ตนเองจำไม่ได้ และตกปากรับคำ จะแก้บนถวายเมื่อกลับถึงบ้านปลอดภัยแล้ว
จนช่วงสายวันที่ 22 เม.ย.67 ตนเองเดินลงมา มองเห็นหลังคาบ้านชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้เดินไปตามถนนเข้าหมู่บ้าน เมื่อมาพบชาวบ้านชาวตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี จึงขอข้าวน้ำเขากินและชาวบ้านใจเมตตา นำมาส่งที่หมู่บ้าน ที่บ้านเนินหินตั้ง หมู่ที่ 10 ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ด้วย สำหรับอาการตนเอง ตอนนี้เพียงเมื่อยล้าเท่านั้น ไม่พบการติดไข้ป่าหรืออื่นใด
—————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
