วันที่ 28 เม.ย.67 พระอภิชาต อภิปุญโญ อายุ 66 ปี พระลูกวัด แสงอุทัยศิริพัฒนารามพร้อมชาวบ้านช่วยกันนำร่างหลวงปู่ประสงค์ ทีฆายุโก อายุ 85 ปี เจ้าอาวาสวัดซึ่งอยู่ในสภาพถูกทำร้ายใบหน้าโชกเลือดได้รับบาดเจ็บ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมัย ภูวงษ์ สว.สอบสวน สภ.นาหว้า จังหวัดนครพนม เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายหลวงปู่ คากุฏิวัดแสงอุทัยพัฒนาราม จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้หลบหนีไป เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้ให้ถึงที่สุด หลังก่อเหตุคุกคามและทำร้ายเจ้าอาวาสมาแล้วหลายครั้ง
หลังได้รับแจ้งตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาหว้า นำกำลังไปควบคุมตัวคนร้ายทราบชื่อคือนายชินกร ไชยมงค์ อายุ 29 ปี ชาว บ.ตาล ม.7 ต.บ้านตาล อ.นาหว้า จ.นครพนม ขณะกำลังนอนเปลอยู่ที่กระท่อมปลายนา อย่างสบายใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ห่างจากวัดที่เกิดเหตุราวๆ 100 เมตร และได้คุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก โดยนายชินกร ยังให้การวกวน ไปมาเนื่องจากยังมี อาการหลอนยาอยู่
พระอภิชาต เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงหลวงปู่ร้องด้วยความเจ็บปวด พร้อมเดินมาขอความช่วยเหลือ ใบหน้ามีบาดแผลเต็มไปด้วยเลือด จึงให้นั่งพักก่อนโทรศัพท์แจ้งหลานและชาวบ้านกว่า 10 คนมาที่วัด ช่วยกันนำร่างหลวงปู่ขึ้นรถกระบะ เพื่อไปแจ้งความ ที่โรงพัก เพื่อให้ตำรวจติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งคนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว แต่หลวงปู่ไม่เอาเรื่องจึงได้มาก่อเหตุซ้ำอีก
นางนัยนา บุตรจันทร์ อายุ 46 ปี หลานสาว ของหลวงปู่ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้นำร่างโชกเลือดหลวงปู่มาแจ้งความที่โรงพักก่อนเพราะตำรวจต้องการหลักฐาน หลังแจ้งความเสร็จจึงนำตัวหลวงปู่ส่งรักษาที่ รพ.นาหว้า ทันที โดยหลวงปู่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลที่ใบหน้าฟกซ้ำ เหนือคิ้วมีบาดแผลแตกฉกรรจ์เย็บหลายเข็ม ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ หลายแห่งแพทย์เข้าน้ำเกลือและให้นอนดูอาการ ที่โรงพยาบาลก่อนประมาณสองถึงสามวัน
นางนัยนา กล่าวเปิดเผยว่า หลวงปู่ไม่มีลูกไม่มีเมีย ตนเกิดมาก็เห็นหลวงปู่บวชอยู่ที่วัดนี้แล้ว ก่อนนี้ นายชินกร คนร้ายที่ก่อเหตุ ได้นำขี้ควายและก้อนหินมาปาใส่กุฏิ ของหลวงปู่พร้อมทั้งยังนำหนังสติ๊กมายิงใส่อีก ตนแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุหลายครั้ง ก็นำตัวไปบำบัดรักษาอาการป่วยทางจิต หลังทราบว่าติดยาเสพติด แต่เมื่อพ้นโทณออกมาก็มาก่อเหตุ ซ้ำอีก
หลวงปู่ประสงค์ ทีฆายุโก เปิดเผยว่า หลังจากชาวบ้านมาทำบุญงานศพที่วัด และกลับจนหมดแล้ว ตนจึงเดินไปพักผ่อนที่กุฏิหลังศาลาการเปรียญ นายชินกร คนร้ายได้ปั่นจักรยานมาจอดหน้ากุฏิ และร้องขอเงินหลายครั้งแต่ตนไม่ให้ จึงถูกนายชินกร ใช้เท้าถีบจนล้มพร้อมกระทืบเข้าที่ศีรษะหลายครั้ง แล้วจึงลากตนเข้าห้องเพื่อหลบกล้องวงจรปิดที่ติดไว้รอบกุฏิ แล้วลงมือทำร้ายต่อ จนได้รับบาดเจ็บทั่วไปทั้งร่าง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างสอบปากคำนายชินกร คนร้ายรายนี้ซึ่งมีอาการป่วยทางจิต เนื่องจากติดยาบ้ามาเป็นเวลานาน ส่วนสาเหตุที่และมูลเหตุจูงใจ ที่ต้องลงมือทำร้ายเจ้าอาวาส น่าจะมาจากไปขอเงินแล้วหลวงปู่ไม่ให้ จึงบันดาลโทษแต่ลงมือทำร้าย จนหลวงปู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ทำร้ายร่างกาย ซึ่งจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รอบบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อนำมาเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้าย ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
