เหตุเรือนำเที่ยวล่มในทะเลตรัง ลอยคอ 14 ราย ดับ 1 ราย นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เล่านาทีระทึก เปิดอีกมุมโต้กลับการช่วยเหลือทางทะเลล่าช้ามาก ไม่มีหน่วยงานจากภาครัฐมาถึงที่เกิดเหตุอย่างทันทวงที ใช้เวลาในการช่วยเหลือนานเกินกว่า 30 นาที ทั้งที่อยู่ห่างจากฝั่งแค่ 2 กิโลเมตร จนแม่สามีเสียชีวิต ลูกปอดติดเชื้อ ทุกคนบนเรือไม่ได้ถูกบังคับให้ใส่เสื้อชูชีพทั้งหมดตามคำให้ข่าวของข้าราชการระดับสูงรายหนึ่งกล่าว
เรือนำเที่ยวล่ม : วันนี้ 7 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางยุพเรศ ตรีประเสริฐกุล อายุ 40 ปี หนึ่งในนักท่องเที่ยวจาก อ.หาดใหญ่ จ.ตรัง ที่ประสบอุบัติเหตุเรือหางยาวนำเที่ยวล่มในทะเลตรัง บริเวณร่องน้ำใกล้สะพานปากเมง พื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันนี้ 4 พ.ค.67 ที่ผ่านมา จนทำให้นักท่องเที่ยว 11 คน คนเรืออีก 3 คน รวม 14 คนต้องลอยคอในทะเลและต้องพยายามเกาะเรือ ส่งผลทำให้แม่ของสามีของนางยุพเรศ ซึ่งว่ายน้ำไม่เป็นและติดอยู่ใต้เรือ ต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จำนวน 1 ราย ส่วนลูกสาวของนางยุพเรศ วัย 11 ขวบ ยังคงต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตรัง ด้วยอาการปอดติดเชื้อ เนื่องจากติดอยู่ใต้ลำเรือที่คว่ำนานกว่า 30 นาทีจนกว่าจะมีการช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุนายท้ายเรือบอกว่า เชือกคันโยงที่ใช้บังคับเรือขาด
นางยุพเรศ ตรีประเสริฐกุล อายุ 40 ปี หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ บอกว่า ตนมาท่องเที่ยวก่อนจะลูก ๆ จะเปิดเทอม โดยมากันทั้งหมด 2 ครอบครัว ทั้งหมด 11 คน อีกครอบครัว 6 คน ครอบครัวตนมีตน สามี ลูก 2 คน และคุณแม่แฟน รวม 5 คน จังหวะเกิดเหตุกำลังแล่นเรือกลับฝั่งกัน ตนด้วยความเมาเรือก็เอนหลังในเรือแต่ไม่ได้หลับ ก่อนจะรู้สึกว่าเรือคว่ำทันทีในขณะที่กำลังแล่นอยู่ โดยไม่มีอะไรบอกเหตุหรือมีคนบอกจากคนขับและเด็กเรือก่อนเลย จนตกอยู่ในน้ำและถูกเรือที่คว่ำหงายท้องครอบอยู่ แฟนตนซึ่งเป็นลูกของผู้ที่เสียชีวิตได้กระชากมือตนไว้ จนเห็นแสงสว่างและมุดออกมาได้ จึงได้มาเกาะเข้ากับขอบเรือ ตนจึงเห็นว่ามีคนหายไป 4 คน นอกนั้นลอยคอและเกาะเรือกันอยู่ ตนจึงตะโกนว่าลูกคนเล็กของตนอยู่ไหน แม่ของแฟนอยู่ไหน และคนอื่น ๆ อยู่ไหน รวมที่หายตนนั้นเป็นคนสูงอายุ 3 คน เด็ก คือลูกสาวของตนอีก 1 คนอายุ 11 ขวบ
ตนก็ตกใจมากพยายามเรียกให้คนมาช่วย จนเด็กเรือซึ่งมือถือของเขายังใช้งานได้ โดยน่าจะโทรบอกเจ้าของเรือว่าเกิดเหตุขึ้น ก่อนที่เจ้าของเรือจะแล่นเรือมาที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าบนเรือไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรเลย เช่น แว่นตาดำน้ำ เพราะเด็กเรือ 2 คนพยายามที่จะช่วยเหลือ 4 คนที่ติดอยู่ในเรือ แต่เขาบอกว่ามองไม่เห็นใต้น้ำ ดำน้ำไม่ได้ เพราะไม่มีแว่นตากันน้ำ แต่เด็กเรือรู้ว่ามีคนติดอยู่ เพราะไปจับถูกมือของคนที่ติดในเรือได้ จนในจังหวะนั้นผู้สูงอายุ 1 รายซึ่งเป็นอีกครอบครัวหลุดออกมาจากเรือได้ เด็กเรือจึงได้กระชากขึ้นมาได้ ทำให้มีผู้ติดในเรืออยู่อีก 3 คน จนมีเรือหางยาวที่อยู่บริเวณนั้นแล่นเข้ามาที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่มีอุปกรณ์หรือแว่นตาดำน้ำเช่นกัน
ข่าวน่าสนใจ:
- นัตตี้ส์แอดเวนเจอร์ส บุก WTM ลอนดอน ชวนคนทั้งมวลเที่ยวไทย
- กลุ่มผู้รับเหมาประกาศกฎเหล็กไม่ดำเนินงานต่อโครงการพลังงานสะอาด หาก UJV ไม่ชำระหนี้เก่าทั้งหมด
- ตรัง ราคายางดิ่งกว่า 20 บาทต่อกิโลกรัม กยท.หนุนสถาบันทำโครงการชะลอยางสู้นายทุน
- ตรัง อึ้ง!! เด็ก-เยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษากว่า 6 พันคน ศึกษาธิการตรังสั่งรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูล รับนโยบาย Thailand zero dropout
ต่อมาตนก็ไม่รู้ว่าเจ้าของเรือโทรหาใคร แต่น่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ ตนก็ได้แต่พยายามตะโกนบอกคนที่อยู่บนเรือที่แล่นเข้ามาหาว่าให้ช่วยคนที่ติดอยู่ในเรือ แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยคนที่ติดในเรือ 3 คนเลยขณะนั้น ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ต่อมาแม่ของแฟนซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตน่าจะหมดแรง ทำให้เด็กเรือนำออกมาได้ ก่อนจะนำมาไว้บนท้องเรือที่หงายอยู่ แต่ปรากฏว่าเด็กเรือก็ไม่ได้ช่วยปั้มหัวใจ น่าจะซีพีอาร์ไม่เป็น ซึ่งแฟนตนก็ได้ว่ายมาช่วยปั้มหัวใจแม่ที่ไม่รู้สึกตัวแล้ว จนมีคุณลุงรายหนึ่ง ซึ่งมากับเรือหางยาวอีกลำเข้ามาช่วยด้วย ก่อนตนจะรีบบอกว่าทำไมไม่รีบพาแม่แฟนขึ้นฝั่งส่งโรงพยาบาล ก่อนที่เรือสปีดโบ๊ท 1 ลำจะช่วยแม่แฟนขึ้นฝั่ง แต่จังหวะนั้นอีก 2 คนยังติดอยู่ใต้เรือ
จนมีคนโทรหาหน่วยงานรัฐว่ามาหรือยัง ซึ่งได้ยินว่าน่าจะอีกประมาณ 10 นาที ตนจึงบอกว่าคนที่ติดอยู่ใต้เรือจะไหวหรือเปล่า ขอแค่ให้ใครทำอะไรสักอย่างก่อน ก่อนที่คนที่มาช่วยจะช่วยกันใช้เชือกดึงให้เรือที่คว่ำหงายขึ้นมา ก็เลยช่วยอีก 3 คนไว้ได้ ซึ่งการช่วยเหลือทั้งหมดใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งลูกตนกินน้ำทะเลเข้าไปเยอะจนปอดติดเชื้อ ก่อนจะถูกส่งตัวต่อมาที่ รพ.ตรัง
จังหวะนั้นมีคนขับเรือ 1 คน เด็กเรือ 2 คน ซึ่งคนขับเรือก็มีอายุตอนเกิดเหตุเขาบอกว่าเขาหมดแรงช่วยไม่ไหว ก็ขึ้นไปอยู่บนเรือสปีดโบ๊ทที่เข้ามาช่วย แต่เด็กเรือทั้ง 2 คนซึ่งยังเป็นเด็กอายุ 10 กว่าปี ก็พยายามช่วยเต็มที่ ซึ่งเด็กเรือ 2 คน ก็บอกเราตลอดว่าถ้าเขามีแว่นตาดำน้ำเขาจะช่วยได้ดีกว่านี้ ตนก็เข้าใจว่าเขาไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้เช่นกัน ส่วนเรือลำดังกล่าวทราบว่าเพิ่งทำเสร็จมาได้ประมาณ 2 เดือน แต่สังเกตว่าโครงหลังคาซึ่งเป็นไม้หนามาก และหลังคาเป็นในลักษณะของปูนพลาสเตอร์ ซึ่งมันก็น่าจะมีน้ำหนักที่มากอยู่ ทั้งที่จริง ๆ สมควรจะเป็นวัสดุที่เบา เช่น ผ้าใบไหม อาจจะเป็นผลทำให้เรือหนักจึงเกิดอุบัติเหตุด้วยหรือไม่
ส่วนประเด็นที่มีการออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า นักท่องเที่ยวนั่งฝั่งเดียวกันจนทำให้เรือเอน บอกเลยว่าไม่เป็นความจริง ทุกคนจดจำตำแหน่งที่นั่งได้หมด และนั่งบาลานซ์กัน ก่อนหน้าจะเกิดเหตุมีคนไปนั่งที่ไม่บาลานซ์ คนเรือก็บอกให้ขยับเราก็ทำตาม ซึ่งไม่มีที่นักท่องเที่ยวคนไหนไม่เชื่อฟังคนเรือ เราเลยรู้สึกเสียใจจากคำให้ข่าวของข้าราชการรายหนึ่ง เมื่อได้มาอ่านข่าว ว่าเกิดเหตุเพราะนักท่องเที่ยวไม่เชื่อฟังคนเรือ เพราะมันแทบจะไม่มีคำเตือนอะไรจากใครเลย
อีกประเด็นที่มีการให้ข่าวว่าทุกคนสวมเสื้อชูชีพนั้น ตนบอกเลยว่าไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพหมดทุกคน ตอนลงเรือที่หน้าถ้ำมรกตใส่กันหมดทุกคน เพราะต้องลงน้ำเข้าถ้ำ จนขึ้นกลับมาบนเรือด้วยความเหนื่อยบางคนก็ใส่ บางคนก็ไม่ใส่ ซึ่งทางคนเรือก็ไม่ได้เน้นเรือเสื้อชูชีพบังคับหรือกำชับใด ๆ เลยว่าต้องใส่ตลอดเวลา เพียงแค่เน้นเรืออุปกรณ์ดำน้ำถ้าหากทำหายต้องมีค่าปรับเท่าไร ถ้าทุกคนใส่เสื้อชูชีพกันจริง ๆ เหมือนมีการให้ข่าวไปก่อนหน้า แล้วจะมีใครต้องเสียชีวิตแบบนี้ แต่ที่เสียชีวิตเพราะติดอยู่ใต้ท้องเรือนาน ต้องเกาะจนหมดแรง ตนเคยท่องเที่ยวนั่งเรือสปีดโบ๊ท จำได้ดีว่าจะถูกกำชับและบังคับว่าต้องใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลา เราก็ยอมรับว่าชะล่าใจเมื่อไม่ได้ถูกบังคับ
วันนี้อยากจะบอกว่าแพทย์ พยาบาล และคนที่ช่วยเหลือบนฝั่งทุกคนดูแลช่วยเหลือดีมาก จนมาเห็นคลิปข่าวรู้สึกเสียใจมากว่ามีคนให้ข่าวเกิดขึ้นเพราะนักท่องเที่ยวเป็นฝ่ายประมาท ไม่เชื่อฟังคนขับเรือ อย่าโยนตราบาปให้เรา ทั้ง ๆ ที่เราเป็นผู้สูญเสียทำเหมือนว่าเราเป็นฝ่ายประมาทเอง แต่คงจะเรียกร้องอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว เพราะคนในครอบครัวเราเสียชีวิตไปแล้วประเมินค่าไม่ได้
ยอมรับว่ามีคนมาที่เกิดเหตุเร็วจริง ๆ ซึ่งก็เป็นเรือท่องเที่ยว และเรือในละแวกนั้น แต่ไม่มีใครที่จะเข้าไปช่วยคนที่ติดอยู่ใต้เรือได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเรือจากหน่วยงานภาครัฐไม่ได้มีมาตั้งแต่ต้น มาถึงก็ตอนที่ทุกคนหลุดออกจากใต้เรือได้แล้ว ซึ่งก่อนที่เราจะมาเที่ยวกันยอดจองที่พัก และเรือเต็มเกือบทุกที่ และนักท่องเที่ยวบนเกาะดานเต็ม เพราะเป็นวันหยุดยาว แต่ติดใจที่ว่าทำไมไม่มีทีมช่วยเหลือที่สแตนด์บายไว้ตลอดเวลา ทั้งที่นักท่องเที่ยวเยอะ ยกตัวอย่างเหมือนเกิดเหตุไฟไหม้ก็จะมีนักดับเพลิงมาอย่างรวดเร็ว แต่นี่กลับไม่มีหน่วยกู้ภัยทางน้ำ หรือน้ำประดาน้ำสแตนบายไว้เลยหรือ ทั้ง ๆ ที่จุดเกิดเหตุก็อยู่ห่างจากฝั่งแค่ประมาณ 1-2 กิโลเมตร มองเห็นฝั่งอยู่ แต่ต้องใช้ระยะเวลาถึง 30 นาทีกว่าจะช่วยได้จากพลเมืองดี.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: