กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี เผย โทรศัพท์หา นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ขอให้กลับไปคิด 1 คืน หลังยื่นหนังสือลาออกจาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปมน้อยใจแบ่งงาน
วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งคงเป็นเรื่องการแบ่งงานในกระทรวง หลังปรับคณะรัฐมนตรี จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าตัวบอกว่า “ใบลาออกกำลังเดินทางมา” จึงบอกไปว่ายังไม่รับ ขอให้กลับไปคิดก่อน1 คืน แล้วค่อยว่ากันใหม่
“เรื่องนี้เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ต้องมีการพูดคุยกัน ผมได้บอกว่า หากท่านมีความไม่สบายใจในการแบ่งงาน ก็ยังมีโปรเจ็กต์อีกมากในกระทรวงการคลัง ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีได้ และทางรัฐมนตรีว่าการคลัง ก็พร้อมจะมอบหมายงานเพิ่มเติมให้ ก็ขอให้ท่านคิดอีก 1 คืนก่อน” นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามว่า ได้หารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือไม่ ว่าเกิดปัญหาอะไรกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลังโทร.หา นายกฤษดา แต่ไม่รับสาย ตนเองจึงโทร.หาแทน
ส่วนจะพิจารณาการแบ่งงานในกระทรวงการคลังใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องให้เกียรติรัฐมนตรี ท่านแบ่งงานไว้ มีงานเพิ่มอีกเยอะ งานบางอย่าง ไม่ได้ระบุไว้ทั้งหมด มีโปรเจ็กต์เยอะไปหมดที่ต้องช่วยกัน และเชื่อว่า รมว.คลัง เหลือขอบเขตงานไว้ใช้ และแบ่งให้ นายกฤษฎีกา ซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวงการคลัง ที่สามารถผลักดันนโยบายต่าง ๆ ได้ดี และคงไม่มีปัญหา เพราะการแบ่งงานนั้นมีแพลนอยู่แล้ว คุยกันล่วงหน้าอยู่แล้วว่า ทำไมถึงแบ่งงานอย่างนี้ และทำไมจึงต้องเหลือพื้นที่บางพื้นที่ให้นายกฤษดา ได้ทำงาน ในโปรเจ็กต์ที่มีอยู่อีกจำนวนมาก ที่สามารถทำได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฤษฎาน้อยใจหลังมีการแบ่งงานให้กำกับดูแลส่วนราชการเพียงหน่วยงานเดียว คือ สำนักบริหารหนี้สาธารณะ ส่วนรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงการคลัง ได้แก่ การยาสูบแห่งประเทศไทย สถาบันคุ้มครองเงินฝาก บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน)
ทั้งที่อดีตเคยดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงการคลัง รู้งานในกระทรวงดีทุกหน่วยงาน
และใน ครม.เศรษฐา 1 ได้กำกับดูแลส่วนราชการสำคัญ ได้แก่ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพสามิต สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ส่วนรัฐวิสาหกิจในสังกัด ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม องค์การสุรา การยาสูบแห่งประเทศไทย และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
