พายุฤดูร้อน กระหน่ำสวนทุเรียนป่าละอู บ้านเฉลิมราชพัฒนา ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ทำทุเรียนที่กำลังใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิตเสียหายราวสิบตัน
(วันที่ 8 พฤษภาคม 2567) นายประยงค์ หอมหวล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านเฉลิมราชพัฒนา ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอหัวหิน พร้อมชาวสวน นำสื่อมวลชนเข้าสำรวจพื้นที่สวนทุเรียนป่าละอู ที่ขึ้นชื่อ ของบ้านเฉลิมราชพัฒนา ซึ่งชาวสวน 12 สวนได้รับความเสียหายจากเหตุพายุฤดูร้อน ที่เข้ามาในช่วงเย็นสร้างความเสียหายต่อสวนทุเรียนในหมู่ 8 บ้านเฉลิมราชพัฒนา
นางสาวพนัดดา เตอสุภาพ อายุ 43 ปี ชาวสวนทุเรียนบ้านเฉลิมราชพัฒนา เล่าให้ฟังว่าแต่ละสวนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ ก่อนที่ฝนจะตกลงมามีลมพัดแรงในช่วงเย็น ซึ่งลมหมุนไปมาราว 5 นาที ส่งผลให้ยอดทุเรียนบางต้นที่มีอายุกว่า 10-20 ปี ด้านบนซึ่งมีลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองป่าละอูที่ได้รับจีไอ ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง15-30 วัน ก็จะเก็บเกี่ยวผลผลิตนำไปขาย ถูกพายุตัดยอดหักโค่นลงมา บางต้นพายุพัดแรงพัดจนลูกทุเรียนตามต้นต่างๆ หลุดออกจากกิ่งแต่ละต้นร่วงตกลงมาที่พื้นโคนต้น บางส่วนเป็นลูกทุเรียนที่อายุ 2 เดือนกว่าๆก็มี หรือบางส่วนอายุ 90 วัน ที่เหลือเวลาเพียง ครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือนก็จะตัดผลผลิตขายได้แล้ว บางลูกน้ำหนัก 1-3 กิโล ซึ่งรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะอีกไม่นานก็จะตัดขายส่งให้เพื่อนๆตามออกเดอร์ตอนนี้ก็ต้องบอกเลื่อนไปก่อนรอต้นที่ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนลูกทุเรียน บางส่วนกองไว้ในสวน บางส่วนเก็บใส่ตระกร้าเอาไว้ ยังไม่รู้ว่าจะนำไปทำอะไรต่อไปเพราะยังไม่ถึงเวลาที่เก็บเกี่ยว แต่จะเก็บเอาไว้หากส่งกลิ่นหอมก็จะทดลองปลอกและเอาเนื้อไปปั่นทดลองทำไอติมทุเรียนป่าละอูปั่นขายบ้าง
เช่นกัน นายสุเพียบ ทัดสงค์ เจ้าของสวนทุเรียนป่าละอู ฯ กล่าวว่า สวนตนเองมีทั้งต้น กิ่งที่หักโค่นราบลงกับพื้น ลูกทุเรียน 300-500 ลูกที่ร่วงลงมาเห็นแล้วรู้สึกเสียดายมาก กำลังจะได้เงินในเดือนหน้าอยู่แล้ว บางลูกหนัก 3 กิโลกรัมหากตัดขายก็จะได้ราคาถึง 700 บาท ซึ่งขณะนี้หลายๆ สวนที่ได้รับความเสียหาย ที่มีการพูดคุยกัน สวนละประมาณห้าหมื่นบาท บางสวน 1 แสนถึง 2 แสนบาทก็มี หวังว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตขายเพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรง ตอนนี้ทุเรียนส่วนที่เหลือที่ตัดได้อาจจะไม่มีกำไร
นายประยงค์ หอมหวล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านเฉลิมราชพัฒนา บอกว่าเนื่องจากสวนทุเรียนของลูกบ้านที่โดนในครั้งนี้ เป็นช่องลมที่เวลามีพายุที่เกิดขึ้นในทุกปีก่อนที่จะมีฝนตกลงมา แต่ยอมรับว่าปีนี้พายุรุนแรงมากกว่าทุกปี ทำให้ ชาวสวนทุเรียนป่าละอู ที่อยู่ในพื้นที่ของตนเอง ได้รับความเสียหายซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีอยู่ถึง 12 สวนในหมู่บ้านอื่นๆยังไม่มีรายงานเสียหายเหมือนหมู่บ้านของตนเอง ซึ่งตอนนี้ชาวสวนแต่ละรายก็ถ่ายภาพและเก็บรวบรวมข้อมูลความเสียหายในเบื้องต้น และนำให้ไปแจ้งความเสียหายที่เกิดขึ้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ รวมทั้งได้รายงานให้ทางนายอำเภอหัวหิน สำนักงานเกษตรอำเภอหัวหินได้รับทราบข้อมูลความเสียหายในเบื้องต้นแล้ว
ด้านนายเจริญ จักขุจันทร์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอหัวหิน กล่าวว่าในการลงพื้นที่สำรวจในตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน พบว่าพื้นที่ซึ่งเสียหายจากพายุฤดูร้อน จุดใหญ่อยู่ที่หมู่ 8 บ้านเฉลิมราชพัฒนา จำนวน 12 สวน ซึ่งมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 2 ล้านบาท ส่วนหมู่บ้านอื่นๆอาจจะมีเพิ่มเติมเล็กน้อย โดยทุเรียนพันธุ์หมอนทองแต่ละสวนที่ได้รับความเสียหายได้รับจีไอ มีอายุ 90 วันราว 80 เปอร์เซ็นต์ รวมๆแล้วเสียหายถึง 10 ตัน ราว 3 พันลูก เพราะบางสวนเสียหาย 100-300 ลูก-500 ลูก ซึ่งชุดนี้จะเหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนเท่านั้นก็จะแก่จัดและเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ท้องตลาด โดยก็ยอมรับว่าผลผลิตทุเรียนป่าละอูที่ขึ้นชื่อในปีนี้จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ยิ่งเมื่อมาเจอภัยแล้งและฤดูร้อน ซึ่งขณะเดียวกันได้รวบรวมข้อมูลความเสียหายทั้งจากภัยแล้ง และพายุฤดูร้อนที่กระทบกับสวนทุเรียนป่าละอูแจ้งไปยังเกษตรอำเภอหัวหิน ให้รับทราบทราบแล้วในเบื้องต้น เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: