กรุงเทพฯ – ทนายความ เผย ชันสูตรศพ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ ในกระเพาะไม่พบอาหาร ร่างกายมีรอยช้ำเล็กน้อย ไม่เชื่อคำแถลงกรมราชทัณฑ์ เรียกร้องนายกรัฐมนตรี ลงมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง
วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยผลผ่าชันสูตรศพของ นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยภาควิชานิติเวชศาสตร์ สาขานิติเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า การผ่าเป็นไปตามหลักทฤษฎีและเปิดเผย โดยตรวจอวัยวะอย่างละเอียดด้วย ว่ามีการกระทบกระเทือนอะไรหรือไม่ มีการนำเนื้อเยื่อของอวัยวะต่าง ๆ ไปส่งตรวจที่แล็บ (ห้องปฏิบัติการ) แล้ว
ส่วนสารคัดหลั่งและเลือด นำส่งตรวจที่แล็บ โรงพยาบาลรามาธิบดี เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญและมีเครื่องมือทันสมัย คาดว่าผลตรวจคร่าว ๆ น่าจะออกพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) ดังนั้น เรื่องสารพิษหรือเลือดมีสารอะไรเจือปนหรือไม่ ต้องรอผลจากโรงพยาบาลรามาธิบดี นอกจากนี้ ยังได้สอบถามแพทย์หลายเรื่อง ทั้งเรื่องของภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งแพทย์บอกว่า ต้องผ่าตัดหัวใจดู รวมถึงผลตรวจค่าตับ-ไต มีสารพิษหรือไม่ เพื่อจะนำไปวิเคราะห์อีกครั้งว่า การตายเกิดจากสาเหตุใด
ไม่พบอะไรในกระเพาะอาหาร
นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า เท่าที่ดูด้วยตาเบื้องต้น การผ่ากระเพาะอาหาร ไม่พบอะไรเลย ซึ่งจะต้องนำไปวิเคราะห์ต่อว่า จะอยู่ในลำไส้ใหญ่หรือลำไส้เล็กหรือไม่ ต้องรอผลที่ชัดเจน ขอให้รอฟังข้อสรุปจากแพทย์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม บุ้งจะกินข้าวหรือไม่กิน ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญ คือ เด็กตายในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในการดูแลของคุณ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญกว่า
อย่างไรก็ตาม สภาพภายนอก พบว่ามีรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งอาจจะเกิดจากการหอบหิ้วหรือถูกอุ้ม และซี่โครงบางซี่ได้รับการกระทบกระเทือนจากการทำ CPR (การช่วยฟื้นคืนชีพ)
ไม่เชื่อคำแถลง-มาตรฐานกรมราชทัณฑ์
เมื่อถามกรณีกรมราชทัณฑ์แถลงว่า หลังจากบุ้งกลับไปพักฟื้นที่ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็ได้กินอาหาร คือ ข้าวต้มกับไข่เจียวมาโดยตลอด และอยู่แบบสุขสบายนั้น ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ บุ้งจะกินหรือไม่กิน หรือจะอยู่แบบสุขสบายหรือไม่ แต่เป็นการตายในอ้อมแขนของคุณ (กรมราชทัณฑ์) ถ้าสุขสบายดี คงไม่ตาย กรมราชทัณฑ์ก็แถลงแบบนี้ทุกครั้ง ตั้งแต่คนไม่ป่วย ก็แถลงให้ป่วย จนกระทั่งส่งออกไปรักษาข้างนอกได้ อยากถามทุกคนว่าเชื่อหรือไม่ แต่ตนเองไม่เคยเชื่อ
ส่วนที่กรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีเครื่องมือตามมาตรฐานการแพทย์นั้น ถ้าได้มาตรฐาน ก็ขอเชิญผู้ป่วยทั้งหลายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็แล้วกัน โดยเฉพาะคนไข้ที่ได้พักโทษแล้ว ไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจ ขอให้กลับไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วย ตนเองไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะปัญหานี้ทำให้เกิดความข้องใจ กรมราชทัณฑ์ควรยอมรับดีกว่า ไม่ไหว จึงต้องส่งกลับมาที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ
นายกฤษฎางค์ ยังเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เก็บข้อมูลหลักฐานว่า บุ้งกินอะไรบ้าง กินเมื่อไหร่ และทำไมต้องส่งมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ พร้อมเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ลงมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังมากกว่าที่จะพูด และขอให้ส่งคนกลางมาร่วมดูแลเรื่องนี้ ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: