พังงา-อธิบดีกรมเจ้าท่าส่งมอบ “ร่องน้ำคลองน้ำเค็ม” เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณอนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่าเป็นประธานในพิธีส่งมอบ “ร่องน้ำคลองน้ำเค็ม” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนชาวบ้านน้ำเค็ม ชาวบ้านบ้านเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดยมีนาย นายพงษ์ศักดิ์ คารวานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา ผู้บริหารองค์กรส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและ ประชาชนบ้านน้ำเค็ม บ้านเกาะคอเขาร่วมงาน
สืบเนื่องจากกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้รับแจ้งจากนายวิรัต นนทอง ประธานกลุ่มประมงขนาดกลางบ้านน้ำเค็ม เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 ว่าพี่น้องประชาชนชาวบ้านน้ำเค็ม บ้านเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ที่ใช้ร่องน้ำคลองน้ำเค็มประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ และใช้สัญจรทางน้ำ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากร่องน้ำคลองน้ำเค็มที่ชาวบ้านใช้เดินทางผ่านเข้า-ออกไปประกอบอาชีพประมงเกิดการตื้นเขิน และร่องน้ำมีสภาพเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และร่องน้ำตื้นเขินขึ้นทุกวันทำให้การเดินเรือเข้าออกเป็นไปด้วยความยากลำบาก
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561 ผมได้เดินทางมารับฟังปัญหาความเดือดร้อนและร่วมตรวจสภาพพื้นที่กับพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถ ใช้ร่องน้ำได้อย่างสะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น และจากรายงานของผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 จังหวัดตรังได้รายงานว่าการขุดลอกร่องน้ำคลองน้ำเค็มแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ระยะเวลาดำเนินการ 30 วัน ขุดลอกปริมาณวัสดุได้ประมาณ 17,000 ลูกบาศก์เมตร ขนาดร่องน้ำกว้าง 40 เมตร ลึก 2.50 เมตรจากระดับน้ำลงต่ำสุด ความยาวร่องน้ำที่ขุดลอก 550 เมตร แต่อย่างไรก็ดีสภาพร่องน้ำคลองน้ำเค็มเป็นร่องน้ำในทะเลเปิด มีทั้งตะกอนดินที่ไหลออกมาจากคลองบางม่วง และตะกอนดินที่ถูกคลื่นลมในฤดูมรสุมพัดพามาจากทะเลมาทับถม ในร่องน้ำคลองน้ำเค็ม และกระแสคลื่นจากน้ำทะเลยังกัดเซาะชายฝั่งบริเวณบ้านเกาะคอเขาพังทลาย ก่อความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินที่ดินตลอดจนบ้านเรือนของประชาชน อีกทั้งแนวสันทรายตามธรรมชาติ ที่เคยมีอยู่ฝั่งตรงข้ามท่าเทียบเรือบ้านน้ำเค็มก็ถูกกระแสคลื่นกัดเซาะจนสูญหายไป ทำให้การเดินเรือและการจอดเรือบริเวณท่าเทียบเรือบ้านน้ำเค็มประสบปัญหาความไม่ปลอดภัยและการเดินทางสัญจรไม่สะดวก
