นครพนม : กล้องวงจรปิดจับชัด แอบย่องขโมยของยายตาบอด แจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบ หลานหวั่นยายไม่ปลอดภัย
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กผู้ใช้นามว่า เจ๊ม้อย V+ ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิด ภาพหญิงชราคนหนึ่งกำลังนั่งปัดกวาดเช็ดถูพื้นบ้านของตัวเองอยู่ จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวสวมใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อยืดสีชมพู เดินมาส่องเข้ามาจากประตูบ้านสักพักก็เดินเข้ามาในบ้านแล้วหยิบฉวยเอาสิ่งของบางอย่างแล้วรีบออกจากบ้านไปทันที โดยโพสต์ข้อความว่า ใจบาปเหลือเกิน ยายแกตาบอด โดนขโมยของเป็นประจำ รอบแรกก็เอากระเป๋าไป มีเงินอยู่จำนวนหนึ่งแต่ไม่มีหลักฐาน หลานก็เลยตัดสินใจติดตั้งวงจรปิดเพื่อเก็บหลักฐานไปแจ้งความ ตำรวจลงแค่บันทึกประจำวัน เอาผิดไม่ได้ คนทั้งหมู่บ้านรู้ว่าเป็นใคร #ขโมยเงินคนตาบอดคนทำอยู่หน้าบ้านเลย ทางเข้าซอย กลัวเรื่องความปลอดภัยด้วยวันนี้มาขู่แฟนว่าถ้าผ่านมึงตุยแน่ยายให้การได้ แต่ว่าหูแกได้ยินไม่ชัด ตร.เลย พูดว่าแบบนี้ยุ่งยากอ.ธาตุพนม จ.นครพนม
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนางทอง สีดา อาบุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 3 ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยยายทองเปิดเผยว่า เมื่อวันที่วันที่ 25 พ.ค.67 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ภูมิรัตน รินสีมา สารวัตรสอบสวน สภ.หลักศิลา ว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.67 เวลาประมาณ 16.00 น. ได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดได้เดินเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าว และได้ขโมยทรัพย์สินอยู่ภายในบ้านไป จึงได้มาแจ้งความและได้นำภาพวงจรปิดมามอบให้เจ้าหน้าที่เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พ.ต.อ. คณพศ พนมชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร หลักศิลา เปิดเผยว่าตนก็เพิ่งเห็นคลิปที่แชร์กันในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสามารถเห็นตัวผู้กระทำผิดได้อย่างชัดเจน ซึ่งถ้าเหตุการณ์เป็นไปตามคลิปจริงก็หาตัวผู้กระทำผิดได้ไม่ยาก ทั้งนี้ต้องขอสอบถามข้อมูลจากร้อยเวรเจ้าของคดีก่อนว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร เพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวน โดยเบื้องต้นได้เชิญตัวผู้ต้องหามาพูดคุยแล้วแต่เจ้าตัวยังไม่ยอมรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ด้านยายทอง สีดา เปิดเผยว่า โดนคนร้ายมาขโมยของที่บ้านสองครั้งแรกแล้ว โดยครั้งแรกได้เงินสดสองพันบาทพร้อมโทรศัพท์มือถือและบัตรประจำตัวของยาย ส่วนครั้งที่สอง ได้เงินหกสิบบาท กับโทรศัพท์และบัตรประจำตัว โดยตอนที่คนร้ายเข้ามาเอาของตนเองนั่งหันหลังให้กับประตูแต่เนื่องจากตามองไม่เห็นจึงไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่รู้ตัวว่ามีคนมายืนอยู่ที่ประตูตนก็เห็นราง ๆ เลยร้องถามไปว่าใช่น้องอุ้มมั้ย เขาก็ตอบมาว่าไม่ใช่อุ้มแต่เป็นเอ็ม และทำทีขอยาพารา หลังจากนั้นก็ฉวยโอกาสหยิบเอากระเป๋าใส่โทรศัพท์ไป โดยเงินและโทรศัพท์ตนเก็บไว้ในกระเป๋าและเก็บไว้ใต้ที่นอนแล้วเอาผ้าห่มคลุมไว้
ด้านนางสาวศศิวรรณ นนธิจันทร์ อายุ 19 ปี หลานของยายทอง เปิดเผยว่าครั้งแรกที่รู้ว่ายายถูกลักทรัพย์ ตนก็นำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งที่บ้านยายทันทีและใช้เวลาไม่ถึงเดือนก็สามารถจับภาพคนร้ายที่เข้ามาลักทรัพย์ได้ตามคลิป โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ซึ่งปกติเขาก็มักจะมาเอาผงซักฟอก น้ำยาล้างจานและผงชูรสอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว หลังตกเป็นข่าว ตนก็ห่วงความปลอดภัยของยาย มากเนื่องจากยายจะอยู่คนเดียวอีกทั้งตายังมองไม่เห็นอีก จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย เพราะผู้ก่อเหตุอาจโกรธแค้นและแอบมาทำร้ายยายเมื่อไหร่ก็ได้
