ร้านกาแฟอ่วมหลังจากมีการปรับราคาขึ้นเดือดร้อนต้องแบบรับภาระไว้หากขึ้นลูกค้าหนีแน่ อยากให้ทางรัฐบาลหันมาดูเรื่องปากท้องเป็นหลักก่อนที่จะสายเกินไป
เวลา 07.00 น.วันที่ 7 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจร้านกาแฟป้าสรรค์ อยู่ตรงทางเข้าตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี มีทั้งกาแฟโบราณ กาแฟชงสำเร็จ และมีทั้งร้อนและเย็นขายมากว่า 15 ปีแล้วและกาแฟที่ชงขายทุกชนิดเพียง 20 บาท บอกว่าในตอนนี้ราคาผงกาแฟสำเร็จรูปนั้นขึ้นราคาอย่างน่ากลัวมากในตอนอนี้ซื้อมาชงลังละ 3,510 บาทซึ่ง 1 ลังมีกาแฟผง 18 ถุง ซึ่งก่อนหน้านี้ราคา 1 ลังเพียง 2,000 กว่าบาทเท่านั้นและก็มีการขยับราคาขึ้นมาเรื่อยรวมถึงกาแฟโบราณก็เช่นกันจากถุงละ 250 บาทมาในตอนนี้ราคาสูงถึงถุงละ 420 บาทเข้าไปแล้ว ส่วนนมข้นและนมสดแบบกระป๋องที่ใช้ชงกาแฟอยู่ก็มีท่าจะขยับขึ้นตามเช่นกัน ตอนนี้ต้องยอมจำทนแบบรับภาระผงกาแฟที่ขึ้นราคาไว้ดีกว่าขึ้นราคาหากขึ้นลูกค้าต่องบ่นอย่างแน่นอนว่าแพง ซึ่งร้านกาแฟนั้นอยู่ควบคู่กับบรรยากาศในเช้าตรู่มานานมากและคนมักนิยมมานั่งกินกาแฟพูดคุยกันซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสภากาแฟประจำตลาดสดเทศบาลเมืองแห่งนี้เลยก็ว่าได้ แต่ตอนนี้ยอมรับว่ามีผลกระทบมากในราคากาแฟที่ขึ้นมาหากขึ้นราคาไปลูกค้าหนีอย่างแน่นอน
ป้าสรรค์ ยังเปิดเผยว่าร้านกาแฟของตัวเองนั้นเป็นศูนย์รวมของคนทำงานทุกประเภทในช่วงเช้าก็จะมาเจอกันพูดคุยกันทุกเรื่องไปเป็นเสน่ห์และรวมถึงเป็นวิถีของชุมชนไปแล้วอยากให้ยังคงอยู่แบบนี้ตลอดไป แต่ด้วยทุนในการค้าขายขึ้นแบบนี้ไม่รู้ว่าจะขายได้อีกนานเท่าไหร่หากทางรัฐบาลนั้นไม่เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องและเรื่องข้าวของที่ขึ้นราคามาอย่างต่อเนื่องแบบนี้เห็นทีจะแย่แน่ ทุกวันนี้ผงกาแฟที่ขึ้นราคามานั้นยอบรับมาก็ยังได้กำไลอยู่แต่น้อยมาก หากบวกลบกับน้ำมันรถยนต์ที่เติมขับมาขายมันต้องใช้ต้นทุนทั้งสิ้นและยอมรับว่าหาเป็นแบบนี้ต่อไปจะแย่ลงเรื่อยๆ เพราะของที่ขึ้นมานั้นเวลาขึ้นเร็วมากเวลาลงนั้นลงช้ามากใช้เวลานาน จึงอยากฝากถึงทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาแก้ปัญหาแบบจริงจัง ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปเลยด้วยซ้ำไป
