นราธิวาส-แรงอัดระเบิดหินโรงโม่สนั่นเมืองนราฯ บ้านเรือนเสียหาย 280 หลัง ด้าน “เสี่ยคนดัง” รุดลงพื้นที่ขอโทษชาวบ้าน ก่อนตั้งจุดลงทะเบียนและจัดชุดช่างเข้าซ่อมแซมเกินครึ่งแล้ว
จากกรณีเกิดเสียงตูมสนั่นทั่วเมืองนราธิวาส และพื้นที่ใกล้เคียง ช่วงเวลา 17.10 น.ของวานนี้ ( 10 มิ.ย.67 ) สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งหลังเสียงดังกล่าวสงบลง ปรากฎว่าในสื่อโซเชียล รวมทั้งกลุ่มไลน์ต่าง ๆ มีประชาชนในหลายพื้นที่ กระหน่ำส่งข้อความเข้าไปในเพจชื่อดังของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยถามถึงที่มาของเสียง รวมทั้งได้แจ้งถึงความเสียหายของบ้านเรือน เนื่องจาก จ.นราธิวาส เป็น 1 ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังคงเกิดสถานการณ์ความรุนแรง ทำให้ผู้คนต่างคิดว่าเสียงที่ได้ยินคือ “คาร์บอมบ์”
ภายหลังการตรวจเช็กข้อมูลตามเครือข่ายต่าง ๆ ทำให้ทราบว่า เสียงตูมสนั่นครั้งนี้ เกิดจากการระเบิดหินของโรงโม่หินแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 58/10 หมู่ 2 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส โดยมีนายพงศ์ศักดิ์ ชุติเชาวน์กุล หรือที่ชาวนราธิวาสเรียกกันติดปากว่า “เสี่ยหมู” เป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด นราธิวาสโรงโม่หิน อีกทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ทั้งนี้แหล่งข่าววงในที่ทำหน้าที่ด้านอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ของ หจก.นราธิวาสโรงโม่หิน ได้ชี้แจงว่า การระเบิดหินไม่มีการกำหนดวันตายตัว และทุก ๆ ครั้งก็จะมีการแจ้งไปทางเครือข่ายวิทยุสื่อสารของทุกหน่วย รวมทั้งแจ้งในกลุ่มไลน์ให้รับทราบตลอด ขณะที่วิศวกรโรงโม่ฯ ระบุว่า กำลังตรวจสอบสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งครั้งนี้ระเบิดครั้งเดียวแต่เสียงมันก้อง ทำให้ฟังดูเหมือนมันซ้อนเสียงกัน ส่วนความดังที่กำหนดคือไม่เกิน 120 เดซิเบล แต่ครั้งนี้มันเกินไปนิดเดียว ประมาณ 130 เดซิเบล ที่เกิดข้อผิดพลาดในส่วนของหน้าระเบิดที่ครั้งนี้บางกว่าปกติ รวมทั้งแรงอัดของอากาศผสมด้วย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าหลังเกิดเหตุช่วงเย็นวานนี้ นายพงศ์ศักดิ์ ชุติเชาวน์กุล หรือ “เสี่ยหมู” พร้อมเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมและผู้เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าพบปะชาวบ้านตามบ้านเรือนที่ปลูกสร้างใกล้เคียงกับจุดที่ระเบิดหิน พร้อมกล่าวขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยได้รับปากว่าจะจัดการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
โดยวันนี้ ( 11 มิ.ย.67 ) เวลา 09.00 – 12.00 น.ที่โรงเรียนบ้านค่าย ต.กะลุวอเหนือ นายพงศ์ศักดิ์ หรือ “เสี่ยหมู” ได้นำพนักงานของ หจก.นราธิวาสโรงโม่หิน ไปตั้งโต๊ะเพื่อเปิดรับการลงทะเบียนของบ้านที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีจำนวน 280 ครัวเรือน และหลังจากปิดรับการลงทะเบียน ทางโรงโม่หินฯ ได้จัดชุดช่างฯ จำนวนหนึ่งเข้าทำการซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งแต่ละหลังจะมีความเสียหายแตกต่างกันไป เช่น กระจกแตก ดวงไฟตกลงมาแตก ฝ้าเพดานพัง รวมทั้งผนังบ้านเกิดรอยร้าว โดยการซ่อมแซมเสร็จสิ้นไปกว่าครึ่งแล้ว สร้างความดีอกดีใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก และคาดว่าภายในสองวันจะซ่อมแซมได้ครบทั้งหมด
สำหรับโรงโม่หินแห่งนี้ ทำการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ 09/12/2529 และได้ประทานบัตรเป็นเวลา 30 ปี ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2565 – 2595 ในนามห้างหุ้นส่วนจำกัด นราธิวาสโรงโม่หิน ซึ่งระบุกิจการว่า โครงการทำเหมืองชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินแกรนิตเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง
