ฉะเชิงเทรา – ตามรอยไอ้หื่นลุยเดี่ยวขับรถไล่ตามประกบ 4 สาวน้อยวัยละอ่อนออกมาจากงานบุญบั้งไฟช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ไล่ถีบรถ จยย.ล้มลงก่อนตรงเข้าหมายลวนลามพร้อมข่มขู่รีดเอาทรัพย์ ขณะเหยื่อสาวร้องลั่น ดังกึกก้องได้ยินไปไกลถึงเกือบ กม. จนผู้เป็นพ่อของหนึ่งในกลุ่มเด็กสาวได้ยินเสียงขับรถพุ่งตรงมาตามเสียง ทำคนร้ายปล่อยมือรอดพ้นภัยได้อย่างหวุดหวิด
วันที่ 16 มิ.ย.67 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ กรณีเด็กสาววัยรุ่นรวม 4 คน ถูกคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ตามประกบออกมาจากงานบุญบั้งไฟ ที่จัดขึ้นริมอ่างเก็บน้ำคลองสียัด บริเวณทางลงผ่านอ่างเก็บน้ำสายเก่า (3259 เดิม) ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นในช่วงระหว่างที่เด็กหญิงสาวทั้ง 4 คนได้พากันขับรถ จยย.จำนวน 2 คันนั่งซ้อนท้ายกันมา ตามเส้นทางจากริมอ่างเก็บน้ำ
ข่าวน่าสนใจ:
ผ่านบ้านเขากระดาษเพื่อที่จะมาเลี้ยวเข้าสู่หมู่บ้านทุ่งส่ายผ่านทางลูกรังผ่ากลางสวนยาง ก่อนที่จะถึงบ้านพักอาศัยอีกเพียงประมาณ 1 กม.เท่านั้น โดยคนร้ายที่ขับรถ จยย.ตามมาได้อาศัยจังหวะที่กลุ่มของเด็กสาวเลี้ยวลงมาจากถนนใหญ่ สาย 3076 ช่วงตอนเขากระดาษ-หนองคอก เพื่อเข้าสู่ทางลูกรังขนาดเล็กเพื่อเข้าไปยังในหมู่บ้านทางด้านหลังวัดประชานิมิตร ซึ่งเป็นทางลัด โดยมี น.ส.เทียร์ อายุ 15 ปี ขับรถนำหน้าและมี น.ส.ข้าวโพด อายุ 15 ปี นั่งซ้อนท้ายเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางเป็นคันแรก
ส่วนอีกคันมี น.ส.น้ำค้าง อายุ 18 ปีเป็นคนขับและมี น.ส.มีนา อายุ 15 ปี นั่งซ้อนท้าย แต่หลังจากขับรถลงไปยังในเส้นทางได้เพียงประมาณ 40 เมตร คนร้ายที่ขับรถตามหลังมา ได้อาศัยจังหวะที่รถชะลอความเร็วลง และเลี้ยวลงมาจากเนินขอบของถนนใหญ่ ขับตรงเข้าประกบด้านท้ายรถ ก่อนที่จะใช้เท้าถีบจนรถจักรยานยนต์คันที่ขับมาคันหลังเสียหลักล้มลงพุ่งเข้าไปยังริมสวนยาง ซึ่งมีต้นหญ้าวาขึ้นปกคลุมประปราย
ก่อนที่คนร้ายจะคว้าตัวของ น.ส.น้ำค้างไว้ และได้พยายามลวนลามขอจับหน้าอกของสงวน พร้อมกับข่มขู่ว่าจะต่อย และให้ส่งเงินมาให้ ส่วน น.ส.มีนา คนนั่งซ้อนท้ายได้กระเด็นตกจากตัวรถลงไปนั่งจ้ำเบ้าพร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความตื่นกลัว จากนั้นคนร้ายได้หันมาถาม น.ส.มีนา ว่ามีตังค์ไหม โดยเหยื่อได้ตอบว่าไม่มีเช่นเดียวกันกับ น.ส.น้ำค้าง โดยที่ น.ส.น้ำค้างได้ตอบกับคนร้ายไปว่า “เดี๋ยวไปเอาที่บ้านให้ได้ไหมล่ะ” ซึ่งคนร้ายได้ตอบว่าให้ขี่รถไปเอามา
โดยที่คนร้ายได้เร่งให้เร็วๆ ให้ไปเอาตังค์มา โดยที่ น.ส.น้ำค้าง ได้ตอบกับว่าเออเดี๋ยวหนูไปเอาให้และบอกว่าจะขอโทรศัพท์ไปหาเพื่อนก่อน โดยที่ น.ส.มีนา ได้ขอร้องให้คนร้ายปล่อยพวกตน และบอกให้คนร้ายตามไปรอเอาเงินที่บริเวณแถวใกล้ๆวัด พร้อมกับมีอาการดิ้นสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว โดยที่คนร้ายได้พยายามที่จะบังคับให้ขี่รถไปพร้อมกับเร่งให้เร็วๆ ก่อนที่ น.ส.น้ำค้าง จะดึงเพื่อนให้ลุกขึ้นมาก่อนที่คลิบจะตัดไป
โดยภาพที่ปรากฏนั้น ถูกบันทึกได้ขณะที่กลุ่มเด็กสาวขับรถออกมาจากงานและเริ่มรู้ตัวตั้งแต่ผ่านบ้านเขากระดาษ ว่ามีคนกำลังขับรถติดตามมา น.ส.มีนา ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถคันหลังมานั้น ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิบไว้เป็นระยะ จนทำให้ในขณะเกิดเหตุการณ์ขึ้น โทรศัพท์ได้บันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นไว้ได้ จนมีการนำออกไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นช่วงที่โทรศัพท์ตกลงสู่พื้นและได้ยินเสียงคนร้ายพูดได้อย่างชัดเจน และถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญอันดับแรก ที่จะนำไปสู่การสืบสวนหาตัวคนร้ายของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
ซึ่งระหว่างเกิดเหตุการณ์ขึ้น รถของเด็กสาวคันที่ขับนำหน้าไป ได้พยายามที่จะขับไปร้องขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกล แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นายเดื่อ ซึ่งเป็นบิดาของ น.ส.ข้าวโพด ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดขอความช่วยเหลือ ขณะกำลังกรีดยางอยู่ในแปลงยางอีกด้านซึ่งอยู่ถัดเลยจากแปลงไร่มันสำปะหลังของบิดา น.ส.น้ำค้าง และแปลงสวนยางข้างเคียงของเพื่อนบ้านอีกแปลง ห่างประมาณ 500-600 เมตร
จึงได้รีบพากันขับรถ จยย.เพื่อมาดูตามเสียงร้อง พร้อมด้วยนายสุนทร เพื่อนที่กำลังกรีดยางอยู่ด้วยกันพุ่งตรงมาตามเสียงที่ดังขึ้นยังในที่เกิดเหตุ และจากแสงไฟฉายคาดศีรษะ และไฟของรถ จยย.ที่สาดส่องพุ่งตรงเข้ามายังในจุดเกิดเหตุ จึงทำให้คนร้ายรีบขับรถ จยย.หลบหนีไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: