กรุงเทพฯ – ศาลประทับรับฟ้อง ‘นายทักษิณ’ คดีผิด มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทนายยื่นขอประกันตัว ศาลให้ประกัน เหตุอัยการสูงสุด-ตำรวจไม่คัดค้าน นัดตรวจพยานหลักฐาน 19 ส.ค.นี้ ขณะที่โฆษกอัยการสูงสุด ยืนยัน ทำตามขั้นตอนปกติ ไม่มี 2 มาตรฐาน
วันที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 08.48 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ย่านจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่เวลา 07.55 น. เดินทางถึงศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อรายงานตัวต่อศาล ในคดีความผิด กฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เมื่อเดินทางไปถึง นายทักษิณ ได้ขึ้นไปที่ศาลฯ ทันที
ต่อมา เวลา 08.56 น. นายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการ ที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ให้เป็นผู้รับผิดชอบคดี ได้ส่งฟ้อง พันตำรวจโทหรือนายทักษิณ ชินวัตร ต่อศาลอาญา ตามข้อกล่าวหา
‘ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 112 คำสั่งของ คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 1 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3 และ 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 8
ตามที่ นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้อง
โดยศาลประทับรับฟ้องคดี พันตำรวจโทหรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไว้ ตามหมายเลขคดีดำที่ อ.1860/2567
ทั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และทนายความขอยื่นประกันตัว ในวงเงิน 500,000 บาท ล่าสุด ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว เนื่องจากอัยการสูงสุดและตำรวจ ไม่ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว ด้วยเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ กรณีจำเป็นจะต้องขออนุญาตก่อน พร้อมยึดพาสปอร์ตของทางการไทย
และนัดตรวจพยานหลักฐานคดีทั้งสองฝ่าย วันที่ 19 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
อย่างไรก็ตาม นายทักษิณ ไม่ได้ใช้พาสปอร์ตไทยมานานแล้ว จึงจะต้องไปดำเนินการขอจัดทำใหม่
โฆษกอัยการสูงสุด ยืนยัน ทำตามขั้นตอนปกติ ไม่มี 2 มาตรฐาน
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ์ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงว่า นายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ได้ส่งฟ้อง พันตำรวจโทหรือนายทักษิณ ชินวัตร ต่อศาลอาญาแล้ว
และศาลประทับรับฟ้องไว้ตามหมายเลขคดีดำที่ อ.1860/2567 ซึ่งบัดนี้คดีได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลอาญาแล้ว หากมีผลคืบหน้าทางคดีสำนักงานอัยการสูงสุด จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการรายงานตัวของนายทักษิณ เหตุใดจึงไม่ต้องมารายงานตัวต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ก่อน แล้วจึงนำตัวไปส่งฟ้องเหมือนในกรณีอื่น ๆ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า เป็นขั้นตอนที่ทำได้เป็นปกติ เนื่องจากนายทักษิณ อยู่ในระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว สัญญาประกันตัวนั้น จะคงอยู่จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ดังนั้น นายทักษิณ สามารถมาที่ อสส.ก่อน แล้วไปส่งตัวพร้อมกัน หรือรอพบจ้าหน้าที่จาก อสส.ที่ศาลอาญาเลยก็ได้ เป็นระเบียบปกติ
ระบุ ยศ พ.ต.ท. เพราะขณะเกิดเหตุยังไม่ถูกถอดยศ
ส่วนในคำแถลง ที่มีการเรียกทั้งนายทักษิณ และพันตำรวจโททักษิณนั้น นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า เป็นเพราะขณะเกิดเหตุ นายทักษิณ ยังไม่ได้ถูกถอดยศตำรวจ เมื่อทำคำสั่งฟ้อง จึงต้องระบุยศขณะนั้นด้วย เพื่อให้ชัดเจนว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ไม่มีการฟ้องผิดตัว แต่การระบุดังกล่าว ไม่ได้มีผลให้เกิดการคืนยศเดิมให้แก่นายทักษิณ 
อดีต สส.เพื่อไทย นำเสื้อแดง แห่ให้กำลังใจทักษิณ
กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง นำโดย นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดสมุทรปราการ และนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง เดินทางให้กำลังใจ นายทักษิณ ที่ศาลอาญารัชดาฯ
นายวรชัย เปิดเผยว่าได้พบ นายทักษิณ ซึ่งมีใบหน้าสดใส ไม่เครียด พร้อมโบกมือทักทายกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง
เบื้องต้น นายทักษิณ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยื่นขอประกันตัวในวงเงิน 500,000 บาท 
